วันที่ 13 พ.ย.68 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต และ ที่ปรึกษารัฐมนตรี รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก Wanwichit Boonprong ระบุข้อความว่า วันนี้ผมได้พบปะ หารือกับนักการทูตชาติมหาอำนาจ เนื้อหาหลักการสนทนาอยู่ที่เรื่องไทย-กัมพูชา กว่า 90% แต่สิ่งหนึ่ง ที่ผมได้ฟังความเห็นจากพวกเขาและตั้งข้อสังเกต ดังนี้
1. เรื่องกัมพูชากล่าวหาไทยว่า ยิงพลเรือนเขา ตาย 1 คนเป็นการจัดฉาก 1000%
เขาดูจากอะไร
1.1 ถ้าทหารไทยยิงจริงๆ ตามที่รู้จักสันดานเขมรมานาน ต้องฟ้องโวยวาย รอคณะผู้สังเกตการณ์ (AOT) มาพิสูจน์หลักฐาน นิติเวช ว่าผู้ตายมีรอยกระสุนตรงไหน ทำไมไม่รักษาความได้เปรียบตรงนี้ว่า ถ้ามั่นใจทหารไทยเป็นฝ่ายทำ
1.2 ทำไมรีบ ฌาปนกิจศพ เข้าเตาเผาอย่างรวดเร็ว เลยไม่มีใครเห็นว่า ตกลงมีศพจริงๆ มั้ย ผู้ตายเป็นใคร ข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีเลย
2. เขมรคิดว่า ต่างชาติโง่ ตามตัวเองไม่ทัน เขาบอกผมว่า รู้ทันเหลี่ยมเขมร เรื่องการทำให้ตัวเองเป็นเหยื่อตลอดเวลา อาทิ การที่เข้าไปครอบคลองโบราณสถาน โดยใช้กองกำลังทหาร วางทุ่นระเบิดไว้รอบปราสาทต่างๆ มันไม่ใช่วิธีคิดของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อ คิดแต่แผนการทางการรบเป็นหลัก
3. การใช้โซเชียล เพื่อฟ้องโลก ประณามไทย ทำเป็นระบบผิดธรรมชาติ จนเกินไป ทำเป็นขบวนการเพื่อรีบโพสต์ ข้อความกิจกรรมเป็นทอดๆ ภาพถ่ายผู้บาดเจ็บ (ทิพย์ห้องพักผู้ป่วยมันดูใหม่ เตียง ผ็าห่มคนไข้ เหมือนถูกแกะมาออกมาใหม่ เหมือน คณะผู้สังเกตการณ์ พยายามถามว่าโดนยิง จุดไหน ก็อ้างว่าจำไม่ได้
ครับ เจ้าหน้าที่การทูตต่างชาติ พยายามถามผม ว่าทำไมรอบนี้ฝ่ายไทย ดูขึงขังจัง ผมตอบไปว่ามีไม่กี่เรื่องที่คนไทยยอมรับ ไม่ได้ หมดความอดทนจริงๆ ถ้าจริงใจกับประเทศไทย ช่วยทำอะไรบ้าง ถ้าไม่ช่วยก็อยู่เฉยๆ อย่าเข้าข้างอีกฝ่ายก็พอใจ(ผมตอบในนามส่วนตัว แต่เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงคิดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่นะครับ)
ขอเป็นกำลังใจให้กองทัพไทย คนไทยต้องรวมใจกันครับ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ศัตรูร่วมของชาติยังเป็นภัยคุกคามอยู่ครับ








