การเมืองทั่วไป

"วิโรจน์" จวกแรง! "ไทย" ยังจับ "คนไทย" ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ไม่ได้แม้แต่รายเดียว ขณะที่ "สิงคโปร์" ลากคอเครือข่าย 27 คน

แชร์ข่าว

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.68 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคประชาชน โพสต์รูปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" ระบุว่า สิงคโปร์สาวถึงเครือข่ายชาวสิงคโปร์ที่ร่วมมือกับสแกมเมอร์กัมพูชา ขณะที่ประเทศไทยยังสาวไม่ถึงเครือข่ายคนไทยแม้แต่คนเดียว

ต้องยืนยันก่อนว่า พนันออนไลน์ กับ เครือข่ายสแกมเมอร์ คือ “อาชญากรรมคนละขบวนการ” ถึงจะผิดเหมือนกัน แต่โครงสร้างเครือข่าย ความรุนแรง และผลกระทบต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการปราบปรามพนันออนไลน์ ก็ทำต่อไปได้เลย แต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การสืบสวนเพื่อยึดอายัดทรัพย์ และตามจับเครือข่ายสแกมเมอร์กลับล่าช้าอย่างมาก และที่น่าตกใจที่สุดคือ ประเทศไทยยังจับเครือข่ายคนไทยที่ฟอกเงินให้สแกมเมอร์กัมพูชาไม่ได้แม้แต่คนเดียว

ในขณะที่สิงคโปร์เดินหน้าไปไกลกว่าไทยมาก ตำรวจสิงคโปร์สามารถสืบสวนขยายผลจนพบเครือข่ายอาชญากรชาวสิงคโปร์ถึง 27 คน ที่ร่วมกันหลอกคนสิงคโปร์ด้วยกัน 438 คดี มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (รายละเอียดอ้างอิงใน Comment)

ปัญหาสแกมเมอร์ หรือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” คือมหาภัยของประเทศ

มูลค่าความเสียหายสูงถึง 115,300 ล้านบาทต่อปี หรือวันละ 316 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับพนันออนไลน์ที่ปีละ 20,000 ล้านบาท (วันละประมาณ 55 ล้านบาท) จะเห็นชัดเจนว่าความรุนแรงของแก๊งสแกมเมอร์สูงกว่าหลายเท่า แต่การดำเนินคดีกลับอ่อนแรงกว่ามาก

ผู้สูงอายุคือกลุ่มที่เจ็บปวดที่สุด สัดส่วนผู้เสียหายกลุ่มผู้สูงอายุสูงถึง 22% ความเสียหายเฉลี่ยต่อคนสูงถึง 416,453 บาท ค่าเฉลี่ยความเสียหายรวมทุกกลุ่มอยู่ที่ 114,000 บาทต่อคน (เด็กต่ำกว่า 15 ปี: 78,468 บาท/คน, ผู้ใหญ่วัยทำงาน 26–30 ปี: 72,908 บาท/คน)

แต่ละปี คนไทยต้องเผชิญกับ SMS หลอกลวงกว่า 130 ล้านข้อความ สายสแกมเมอร์กว่า 38 ล้านสาย คดีร้องทุกข์กว่า 319,000 คดีต่อปี หรือวันละ 874 คดี

ทั้ง ๆ ที่นายกฯ ทราบดีอยู่แล้วว่า “เงินสีเทาจากสแกมเมอร์กัมพูชา ไหลเข้ามาฟอกในประเทศไทย” แต่จนถึงวันนี้ เรายัง ไม่สามารถสาวไปถึงเครือข่ายคนไทยที่รับฟอกเงินให้กัมพูชาได้เลยแม้แต่คนเดียว

ต้องย้ำอีกครั้งว่า พนันออนไลน์ กับ สแกมเมอร์ คือ “โจรคนละพวก” จับพนันออนไลน์ได้ ก็ดี ทำไปเถอะ แต่ความนิ่งเฉยต่อเครือข่ายฟอกเงินของสแกมเมอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายหนักกว่าเป็นสิบเท่า และส่งผลให้คนไทยหมดเนื้อหมดตัวนับแสนรายต่อปีนั้น คือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริง ๆ

กรณี “สีกากอล์ฟ” เราเห็นแล้วว่า เมื่อรัฐจริงจัง ตั้งใจทำงาน “ไม่มีนอกใน ไม่เกรงใจใคร” ก็สาวเส้นทางเงินไปถึงพระผู้ใหญ่ได้เป็นขบวน กรณีเครือข่ายสแกมเมอร์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเอาจริง สาวถึงใครก็จับคนนั้น ไม่ต้องเกรงใจใคร ผมเชื่อว่าเราจะสามารถลากคอไอ้โม่งคนไทย ที่เป็นสมุนฟอกเงินให้กัมพูชาออกมาได้เหมือนกัน

วันนี้ ประชาชนกำลังถูกปล้นกลางวันแสก ๆ ทุกวัน วันละสามร้อยล้าน ผู้สูงอายุต้องหมดตัว เด็กยังไม่พ้นอายุ 15 ก็ถูกหลอกแล้ว นี่ไม่ใช่ตัวเลขบนกระดาษ แต่มันคือ “ชีวิตคนไทย” คือ “น้ำตา ผู้สูงอายุ” คือ “เงินทั้งชีวิตของคนทำงาน”

รัฐบาลต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่ข้างประชาชน หรือจะปล่อยให้เครือข่ายฟอกเงินสกปรกย่ำยีประเทศต่อไป

#สแกมเมอร์กัมพูชา #ฟอกเงินข้ามชาติ #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ข่าวการเมือง #ภัยออนไลน์ #ตำรวจไทย #สิงคโปร์จับสแกมเมอร์ #หลอกลวงออนไลน์ #ข่าวเด่นวันนี้ #พรรคประชาชน

ข่าวแนะนำ

แชร์ข่าว