หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา นักมวยหมัดคม วัย 30 ปี จากจังหวัดศรีสะเกษ ประกาศพร้อมทุ่มสุดตัวสู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย เพื่อลุ้นบุกไปโค่น นาดากะ ยอดนักชกเจ้าถิ่น วัย 24 ปี ชาวญี่ปุ่น และคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ปอนด์) เส้นแรกในประวัติศาสตร์มาครองให้ได้ ในศึกครั้งยิ่งใหญ่ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ณ สนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มคู่แรกเวลา 11.00 น.
หากมีการจัดอันดับไฟต์พลิกล็อกแห่งปี 2568 เชื่อว่าชัยชนะล่าสุดของ หนุ่มสุรินทร์ ที่จัดการหักปากกาเซียนเบียดเอาชนะคะแนนเสียงข้างมาก ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์ ในศึก ONE ลุมพินี 122 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คงติดโผอยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากกระแสก่อนเกมในไฟต์นั้น ไม่มีใครคาดคิดว่า "ครูพละ" จากโรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ รายนี้ จะสามารถหยุดความไร้พ่ายอันยาวนานถึง 10 ไฟต์ของ ทรงชัยน้อย ลงได้
ชัยชนะเหนือ ทรงชัยน้อย ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในเส้นทางนักสู้ของ หนุ่มสุรินทร์ เพราะนอกจากจะช่วยให้เขาได้รับสัญญา ONE มาครองในฐานะนักชกคนที่ 32 ของรายการ ONE ลุมพินีแล้ว ยังส่งให้เขาได้รับโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอีเวนต์ใหญ่แห่งปีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยจะได้พบกับ นาดากะ ยอดนักชกเจ้าถิ่น เพื่อแย่งกันขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต คนแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่ง หนุ่มสุรินทร์ ยอมรับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้ถือเป็นความฝันที่เป็นจริง
“ตอนที่รู้ว่าได้สัญญา ผมกำลังอยู่ที่ร้านอาหาร เพื่อนเป็นคนส่งข้อความมาบอก ตอนนั้นดีใจมากครับ เพราะไม่คิดว่าจะได้จริง ๆ รีบโทรบอกพ่อกับแม่ทันทีว่า ‘ผมได้สัญญา ONE แล้วนะ!’ ก่อนหน้านี้ท่านทั้งสองคาดหวังกับผมมาก แต่เห็นผมผิดหวังมาหลายครั้ง ไปสอบงานราชการก็ไม่เคยผ่าน สัญญาฉบับนี้จึงเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้น ได้เดินหน้าทางสายมวยเต็มตัว ซึ่งพ่อแม่ก็ดีใจ เพราะเห็นว่าผมได้ทำในสิ่งที่รัก”
“หลังจากได้สัญญามา ผมก็คิดว่าต้องได้เจอกับ นาดากะ แน่ ๆ พอรายการติดต่อมาให้ชกกับเขาจริง ๆ ก็รู้สึกดีใจมาก แล้วยิ่งพอรู้ว่าเป็นไฟต์ชิงเข็มขัดเส้นแรกในประวัติศาสตร์ของรุ่นอะตอมเวต ยิ่งเซอร์ไพรส์เข้าไปใหญ่ ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดเลยครับ”
สำหรับ นาดากะ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่เก่งที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ในยุคนี้ จากผลงานความเก่งกาจที่แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าบนสังเวียน และปัจจุบันกำลังถือครองสถิติสุดโหด ชนะติดต่อกันถึง 39 ไฟต์ในทุกรายการ ขณะที่ผลงานใน ONE ก็คว้าชัยสวยงามมาแล้ว 3 ไฟต์รวด จนได้รับโอกาสขึ้นชิงเข็มขัดเส้นประวัติศาสตร์ในครั้งนี้
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมสำหรับไฟต์นี้ นอกจากการฝึกซ้อมอาวุธมวยไทยแบบจัดเต็มแล้ว หนุ่มสุรินทร์ ยังได้นำยุทธวิธีที่ บันลือโลก ศิษย์วัชรชัย เคยใช้ในไฟต์ที่พ่ายคะแนนเอกฉันท์ให้กับ นาดากะ ในศึก ONE ลุมพินี 114 เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 มาศึกษา พร้อมปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมเพื่อเตรียมรับมือยอดนักชกแดนปลาดิบรายนี้ด้วยเช่นกัน
“ผมติดตาม นาดากะ มาตั้งแต่สมัยเขาชกมวยไทย 5 ยก ในสายตาผม เขาคือมวยไทยเบอร์หนึ่งของโลกในรุ่นอะตอมเวต จุดเด่นของเขาคืออาวุธคมและจังหวะเข้าออกที่รวดเร็ว ความเร็วของเขาสร้างปัญหาให้กับนักมวยหลายคน แต่ผมได้วางแผนรับมือไว้แล้ว และจะเพิ่มความเร็วของตัวเองให้ทันเขาครับ”
“ไฟต์นี้ผมคิดว่าจะไปชิงจังหวะกับเขา เพราะถ้าเราเดินเข้าหาก็อาจจะเสียเปรียบได้ ส่วนเรื่องทักษะหมัด ผมมั่นใจว่าไม่เป็นรองใครแน่นอน ผมไม่กลัวหมัดอยู่แล้ว เพราะฝึกมวยสากลมา 7–8 ปี ทำให้รู้จังหวะการออกหมัดและการป้องกันเป็นอย่างดี”
“ผมเตรียมอาวุธมาไว้หลายอย่าง และตั้งใจจะออกให้ถี่ขึ้น เพราะถ้ามีแค่หมัดอย่างเดียวคงสู้ไม่ได้ ไฟต์นี้ผมยังนำเกมของ บันลือโลก ในวันที่แพ้ นาดากะ มาปรับใช้ด้วย วันนั้น บันลือโลก ทำให้ นาดากะ ออกอาวุธไม่เต็มที่ แต่ข้อเสียคือออกอาวุธน้อยเกินไป ดังนั้น ผมจะเพิ่มอาวุธให้หลากหลายและขยันออกมากกว่าเดิม”
แม้จะเป็นอีกครั้งที่ หนุ่มสุรินทร์ ถูกมองว่าเป็นรองสุดกู่ แต่เจ้าตัวก็พร้อมงัดทุกอย่างที่มีออกมาสู้ เพื่อลุ้นสร้างปรากฏการณ์หักปากกาเซียนอีกครั้ง ด้วยการบุกไปเอาชนะ นาดากะ และขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต คนแรกในประวัติศาสตร์
“ไฟต์นี้ผมน่าจะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา แต่จะไม่เดินวู่วาม จะค่อย ๆ กดดันเป็นจังหวะ หาก นาดากะ เป็นฝ่ายเดินเข้ามาเอง ก็จะยิ่งเข้าทางผม เพราะผมวางแผนชิงจังหวะไว้แล้ว ขณะเดียวกันผมก็เน้นการป้องกันตัว จึงมองว่าโอกาสจบครบยกมีสูง เพราะต่างฝ่ายคงเดินเกมแบบไม่ประมาท”
“ถ้าผมเอาชนะ นาดากะ และคว้าแชมป์ได้ เชื่อว่าจะทำให้ผมมีชื่อเสียงมากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเขาคือเบอร์หนึ่งของโลก ไฟต์นี้ผมไม่มีอะไรจะเสีย พร้อมสู้เต็มที่ แม้ต้องทนเจ็บแค่ไหนก็ยอม เพราะเป้าหมายคือเอาเข็มขัดกลับประเทศไทยให้ได้ครับ”
ศึก ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 เริ่มเวลา 11.00 น. รับชมสดในรูปแบบ เพย์-เพอร์-วิว (PPV) กดซื้อที่ลิงก์ LIVE.ONEFC.COM ในราคาสุดคุ้มเพียง 250 บาท (ไม่รวมค่าบริการและภาษี) และพิเศษสุดเฉพาะช่วง Early Bird เพียงกรอกโค้ด 173EARLY ในขั้นตอนการชำระเงินเพื่อรับส่วนลด 10% โปรโมชันสิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. เท่านั้น
ส่วนแฟนกีฬาที่สนใจรับชมในสนามสามารถซื้อบัตรผ่านทาง ONEFC.com/one173/ และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
#ONE173 #หนุ่มสุรินทร์ #นาดากะ #ชิงแชมป์โลก #มวยไทย #ONEChampionship #เข็มขัดประวัติศาสตร์ #พลิกล็อก #มวยไทยญี่ปุ่น








