วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า วันนี้สำนักงาน กสทช. เขต 25 ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 4 เข้าตรวจสอบ อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร ถนนชยางกูร อ.เมือง จ.มุกดาหาร หลังได้รับรายงานว่าเป็นจุดติดตั้งอุปกรณ์ “ซิมบ็อกซ์ (Simbox)” ของเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยบริเวณชั้น 2 ของอาคาร พบเครื่องซิมบ็อกซ์จำนวน 4 เครื่อง ใช้สำหรับแปลงสัญญาณโทรศัพท์เพื่อโทรผ่านอินเทอร์เน็ต โดยได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นอกจากนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ยังได้ให้ข้อมูลแก่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร) ซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากพบเบาะแสความผิดปกติการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตในบริเวณพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ได้ตรวจสอบพบบ้านหลังหนึ่ง ในจังหวัดบึงกาฬ มีการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตผิดปกติ โดยได้นำหมายค้นศาลจังหวัดบึงกาฬเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ผลการตรวจค้น พบของกลางเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิดของกระบวนการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด (Sim box) 32 พอต จำนวน 4 เครื่อง เครื่องขยายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Signal Booster) จำนวน 1 เครื่อง เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย จำนวน 1 เครื่อง เสาอากาศแบบโดม (Ceiling Dome Antenna) 1 เครื่อง และเสาอากาศทิศทาง (Directional Antenna) 1 เครื่อง เป็นต้น จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว และส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศให้การปราบสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงการออกตรวจเสาและสายในบริเวณพื้นที่ชายแดน เป็นการทำงานร่วมกันทั้งส่วนกลาง และภาค/เขตในพื้นที่อย่างเข้มข้น








