"จ่าเอกยศสิงห์" รมช.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่เพชรบุรีรับฟังเสียงคัดค้านจากประชาชนกว่า 200 ชีวิตแสดงพลังไม่เอาโรงงานไพโรไลซิสยางเก่า หวั่นมลพิษกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ย้ำชัดเจนต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ก่อนเผยความคืบหน้าล่าสุด สอจ. "จำหน่ายคำขอออกจากระบบแล้ว" เพราะบริษัทยื่นไม่ทันตามกำหนด
วันที่ 10 พ.ย.2568 จ.อ.ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่รับฟังชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลทับคาง อำเภอเขาย้อย ที่รวมพลังกว่า 200 คน แสดงจุดยืนคัดค้านการตั้งโรงงานผลิตน้ำมันไพโรไลซิสจากยางเก่าของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายอภิชาติ แก้วโกศล และ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.จังหวัดเพชรบุรี ร่วมเป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนในพื้นที่
จ.อ.ยศสิงห์ ย้ำหลักการชัดเจนว่าไม่มีอิทธิพลใดศักดิ์สิทธิ์เหนือกฎหมาย เมื่อประชาชนเดือดร้อน กระทรวง อุตสาหกรรม ต้องตอบให้ตรงคำถาม เปิดเผยทุกขั้นตอน และให้ประชาชนตรวจสอบได้ ตนมาดูด้วยตา มาฟังด้วยหู เพื่อให้ทุกอย่าง เคลียร์และชัดเจน สำหรับข้อเท็จจริงและความคืบหน้า ในเรื่องดังกล่าว สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี (สอจ.) ยืนยัน ยังไม่มีการพิจารณาอนุญาต และหลังติดประกาศรับฟังความคิดเห็นครบกำหนด 45 วัน บริษัทไม่ได้มาดำเนินการยื่นขอต่อ จึงได้ จำหน่ายคำขอออกจากระบบแล้ว
ส่วนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น ได้มีการคัดค้าน 2 กลุ่ม ผ่าน ส.ส. 81 รายชื่อ และจากชาวบ้านตำบลทับคาง หมู่ 4 จำนวน 172 รายชื่อ สะท้อนความกังวลต่อ มลพิษทางอากาศ เสียง และผลกระทบสิ่งแวดล้อม หากมีการประกอบกิจการ
ทั้งนี้ตามกรอบกฎหมาย โรงงานจำพวกที่ 3 ต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรัดกุม รวมถึง การปิดประกาศรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วัน และต้องชี้แจงข้อมูลให้สาธารณะทราบอย่างโปร่งใสทุกประเด็น
ขณะที่ที่ประชุมภาคสนามวันนี้ได้แลกเปลี่ยนข้อเท็จจริง เชิงเทคนิค และมาตรการควบคุมมลพิษต่อหน้าสาธารณะ โดยชาวบ้านย้ำจุดยืน ไม่เอาโรงงานมลพิษและขอให้หน่วยงานรัฐ ยึดหลักกฎหมายหลักวิชาการ พร้อมเปิดข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายอภิชาติ แก้วโกศล และ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ในนามผู้แทนราษฎรพื้นที่ ขอบคุณพลังชุมชนที่ลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเกิด และยืนยันจะทำหน้าที่ ติดตาม ตรวจสอบ และส่งเสียงของประชาชน ในทุกเวทีจนกว่าจะได้คำตอบที่เป็นธรรม
รมช.อุตสาหกรรมได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร เผยแพร่ต่อสาธารณะ พร้อมตั้ง จุดรับเรื่องร้องเรียน ให้ประชาชนส่งหลักฐานข้อสังเกตเพิ่มเติมได้ตลอด เพื่อให้การตัดสินใจใด ๆ ในอนาคต ยึดโยงกับกฎหมาย ความปลอดภัย และฉันทามติของชุมชน อย่างแท้จริงและ กฎหมายต้องเสมอภาคกับทุกคนไม่มีอิทธิพลใดศักดิ์สิทธิ์เหนือกฎหมาย และ พลังชาวบ้าน คือปราการด่านแรกในการปกป้องสิทธิในอากาศสะอาด น้ำสะอาด และคุณภาพชีวิตที่คู่ควรกับทุกครอบครัวในเพชรบุรี