วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อทบทวนและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ โดยนายอำเภอแม่อาย เป็นประธาน และมีรองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นักวิชาการที่ทำวิจัยเรื่องฝายดักตะกอน รวมทั้งตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านประมาณ 350 คนเข้าร่วม
ทั้งนี้ก่อนการประชุม ชาวบ้านได้นำป้ายที่เขียนข้อความหลากหลายในการต่อต้านการทำฝายดักตะกอนมาติดไว้บริเวณหน้าห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงแรกทางผู้จัดงานพยายามประกาศออกตัวว่า การเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการกดดันให้ประชาชนตัดสินใจยอมรับการทำฝายดักตะกอน เพราะนายสุชาติ ชมกลิ่ม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติได้บอกกับชาวบ้านไว้แล้วว่า หากประชาชนไม่เอาด้วยก็สร้างฝายดักตะกอนไม่ได้
ก่อนหน้านี้ การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ได้มุ่งประเด็นในเรื่องการจัดทำฝายดักกตะกอน อย่างไรก็ตามเมื่อชาวบ้านร้องเรียนไปยังนายสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งเคยรับปากชาวบ้านว่าจะไม่สร้างฝายหากประชาชนไม่ต้องการ ทำให้นายสุชาติส่งเรื่องไปยังกรมทรัพยากรน้ำ และมีการเปลี่ยนแปลงหัวข้อเป็นการรับฟังเรื่องคุณภาพน้ำแทน
ทั้งนี้การเปิดเวทีรับฟังเรื่อมต้นด้วยการให้ ผู้แทนของกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนกรมประมงและผู้แทนกรมอนามัย เล่าถึงสถานการณ์การตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก คุณภาพดิน ข้าวและพืชผลการเกษตร รวมถึงการตรวจสุขภาพของประชาชนริมแม่น้ำก โดยผลการตรวจส่วนใหญ่แม้จะมีสารโลหะหนักปนเปื้อนแต่ยังไม่เกินมาตรฐาน
อย่างไรก็ตามในช่วงหลังก่อนที่จะเปิดเวทีให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น ทางผู้จัดได้เชิญนักวิชาการ 3 รายที่ทำวิจัยเรื่องฝายดักตะกอนและผลักดันโครงการนี้ขึ้นเวทีเพื่อรับฟังเสียงของชาวบ้าน
พ.ท.บุญโรจน์ กองแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตอน กล่าวแสดงความคิดเห็นในเวทีว่า การแก้ปัญหาควรแก้ปัญหาเร่งด่วนก่อน เช่น การหาแหล่งน้ำการเกษตรและแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค รวมถึงการตรวจและขุดเจาะน้ำใต้ดินหรือน้ำบาล ตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่มีหน่วยงานมาดำเนินการเลย ขณะที่การตรวจวัดคุณภาพสินค้าเกษตรแม้ยังไม่ตรวจพบสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน แต่ก็น่าเป็นกังวล และรัฐบาลจะเยียวยาชาวบ้านอย่างไร ต้องทำอย่างครบวงจร
“เรื่องของฝายดักตะกอน ท่านประชาสัมพันธ์ให้พวกเราน้อยไปหน่อย ฝายเป็นอย่างไรคนท่าตอนยังไม่รู้เลย หากสร้างฝายและเกิดการตกตะกอน คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนในตำบลท่าตอน การที่ท่านพยายามมาอธิบายในวันนี้ผมไม่แน่ใจว่ามีใครเข้าใจมั้ย”พ.ท.บุญโรจน์ กล่าว
พ.ท.บุญโรจน์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นทหารหมวกแดงอยู่กับชนกลุ่มน้อยมาตลอด ตนไม่เชื่อว่าทหารไทยจะเจรจาไม่ได้ ถ้าเราเข้มแข็ง เราอาจขอให้เขายุติการทำเหมืองไม่ได้ แต่ขอให้เขาทำเหมืองที่ถูกต้องได้ ดังนั้นการเจรจาต้องฝากผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง และไปบอกเขาว่าอย่าทำให้คนไทยเดือดร้อน เพราะแม่น้ำกกไหลเข้าไทยที่ท่าตอนก่อน ดังนั้นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไรที่ต้นตอได้บ้าง
ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า ประเพณีสำคัญของชาวท่าตอน เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง แทบไม่ได้ขายของเลย แต่ราชการกลับจะมาสร้างฝายดักตะกอนโดยยังไม่เคยมาฟังความคิดเห็นของชุมชนที่กำลังเดือดร้อน ตนเองเคยทำซุ้ม 50 ซุ้มริมน้ำเพื่อให้คนมาพักผ่อน แต่ตอนนี้ทำไม่ได้เลย เพราะน้ำปนเปื้อนไม่มีใครมาเที่ยวทำให้ต้องเป็นหนี้ อยากให้นำปัญหาของเราไปพิจารณาและเยียวยาผู้ประกอบการร้านค้า รีสอร์ท ล่องแพ ล่องเรือ
ผู้แทนกลุ่มรักษแม่น้ำกก กล่าวว่าการจะสร้างฝายดักตะกอนจะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากขึ้น เพราะจะเกิดฝุ่นละออง ประเทศชาติต้องสูญเสียงบประมาณ แทนที่จะนำงบประมาณมาช่วยเหลือชาวบ้าน
ขณะที่กำนันตำบลท่าตอนกล่าวว่า ชาวบ้านได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำในแม่น้ำกกได้ ขณะที่พื้นการเกษตรมีการปลูกพืชทั้งพริก กระเทียม บางส่วนส่งต่างประเทศด้วย จึงได้รับผลกระทบถ้วนหน้า อยากให้รัฐบาลเร่งหาบ่อน้ำสะอาด ขุดเจาะบ่อบาดาลน้ำลึก รวมทั้งบ่อบาดาลที่ไม่ใช่จากน้ำกกมาทำเป็นน้ำเพื่อการเกษตร สิ่งเหล่านี้เป็นความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้านมากกว่าการทำฝายดักตะกอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากชาวบ้านทยอยกันแสดงความคิดเห็น และบางส่วนได้เดินทางกลับ จนห้องประชุมเหลืออยู่ราว 60-70 คน ซึ่งในช่วงท้ายทางผู้จัดงานได้เสนอที่จะลงมติโดยมีคำถามว่าควรดำเนินการตามที่คณะทำงานเสนอเรื่องบ่อดักตะกอนหรือไม่ เป็นการลงประชามติครั้งที่ 1 โดยมีคำตอบให้เลือก 3 ประการ คือเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และไม่แสดงความคิดเห็น ซึ่งผู้จัดให้สแกนคิวอาโค๊ต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้ลุกขึ้นโต้แย้งว่าการลงประชาชามติครั้งนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้คิวอาร์โค๊ตได้ และมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ต้องการแสดงความเห็นคัดค้านควรทำอย่างไร ซึ่งทางผู้จัดแจ้งว่าขอให้ผู้ที่อยู่ในห้องประชุมเป็นตัวแทนของชาวแม่อาย ในที่สุดนายก อบต.ท่าตอนจึงขอใช้วิธีลงมติโดยการยกมือ ปรากฏว่าชาวบ้านที่เหลือในห้องประชุมทั้งหมดยกมือไม่เอาฝายดักตะกอน และเมื่อถามว่ามีใครเอาฝายบ้าง ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ ดังนั้นในที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าชาวท่าตอนไม่เอาฝากดักตะกอน ก่อนที่จะปิดประชุม








