วันที่ 8 พ.ย. 68 ที่อาคารรัฐสภา สถาบันพระปกเกล้า(KPI) มีการจัดการประชุมวิชาการประจำปี “KPI Congress ครั้งที่ 27” โดยมีการปรับโฉมการประชุมรูปแบบใหม่ให้เป็นเวทีทางวิชาการประจำปี ของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างแท้จริง ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย ผู้แทนจากคณะกมธ.สามัญ ทุกคณะของทั้ง สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พร้อมด้วยเอกอัครราชทูต และผู้แทนทางการทูตกว่า 50ประเทศ ซึ่งแลกเปลี่ยนข้อมูล แนวทางความร่วมมือด้านประชาธิปไตย และธรรมาภิบาล รวมทั้ง มีการรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันพระปกเกล้า ในรอบปีที่ผ่านมา พร้อม แผนการดำเนินงานในปีถัดไป เพื่อให้ฝ่ายการทูตได้รับทราบถึงบทบาทของสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะคลังสมองของชาติด้านนิติบัญญัติ และเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในอนาคต
โดยนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า แถลงว่า การจัดประชุมครั้งที่ 27 นี้ นับเป็นก้าวสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติไทย ในการแสดงบทบาทเชิงรุกบนเวทีโลก ทั้งในด้านการสื่อสารเชิงนโยบาย การเผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ และการส่งเสริมการทูตรัฐสภา ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศประชาธิปไตยที่โปร่งใส เปิดกว้าง และพร้อมก้าวสู่การเป็นประชาคมโลกอย่างสมบูรณ์
นายอิสระ กล่าวว่า วันนี้สถาบันพระปกเกล้าไม่เหมือนเดิม ตามที่ตนได้ตั้งวิสัยทัศน์เอาไว้ ตนได้ดำเนินการแล้วหลายอย่าง เช่น การเซ็นคำสั่งจัดตั้งศูนย์สำรวจ KPI โพล ทำหน้าที่สำรวจข้อเท็จจริงต่างๆในสังคม ที่ผ่านมาตนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากประเทศต่างๆ มาช่วยกันออกแบบศูนย์ KPI โพลด้วย จะมีการเปิดตัวในเดือนหน้า คือ ธ.ค. ตนเชื่อว่า จะเป็นอีกหนึ่งสถาบันโพลที่เชื่อถือได้ในทางการเมือง
นายอิสระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนจะดำเนินการให้มีการจัดเวทีดีเบตระดับชาติ ซึ่งน่าจะเป็นเวทีดีเบตเดียวของรัฐ ในการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่น่าจะเกิดขึ้น 2 ครั้ง ในปีหน้า 2569 กระบวนการ เราจะเอาผลสำรวจจาก KPI โพล ประกอบการเชิญแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 5ลำดับแรก ให้มาดีเบตกัน เป้าหมายเพื่อ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เห็นผู้นำในอนาคต เพื่อขยายเวลาอำนาจของประชาชนให้เกินกว่าเวลาที่ใช้ในคูหาเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ที่กำลังจะเกิดขึ้น เราก็จะดำเนินการเปิดเวทีดีเบต ในลักษณะเดียวกันด้วย







