ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ร่วมกับผู้รับเหมาและผู้แทนชุมชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและหารือแนวทางแก้ไขปัญหารถติดบน ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ช่วง บ้านห้วยเกรียบ–บ้านธรรมรัตน์ อำเภอบางสะพาน หลังพบการจราจรติดสะสมยาวหลายกิโลเมตรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการก่อสร้างทางยกระดับและขยายพื้นผิวจราจร
เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ณ บริเวณถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ หมู่ที่ 5 บ้านธรรมรัตน์ ตำบลทองมงคล อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.บางสะพาน พร้อมด้วย ร.ต.อ.อำนาจ บัวเกตุ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.บางสะพาน, นายยุทธนา หนูดำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5, นายวิกฤช เมืองโสมช่วย นายช่างโครงการกรมทางหลวง และ นายธีรพัฒน์ กันทาธรรม หัวหน้าควบคุมโครงการ บริษัทพะเยาใบทอง จำกัด ได้ร่วมกันลงพื้นที่หารือแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดที่เกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้างถนนยกระดับ
บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีการ บีบช่องทางจราจร เหลือเพียงช่องทางเดียว ทำให้รถต้องวิ่งสวนเลนกันในบางช่วง โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนซึ่งมีรถบรรทุกและรถโดยสารจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรติดสะสมยาวต่อเนื่องหลายกิโลเมตร
พ.ต.อ.พสิษฐ์ ก้อนสิน เปิดเผยว่า ปัญหาหลักเกิดจากลักษณะถนนที่มีความลาดชันก่อนถึงจุดบีบช่องทาง ทำให้รถบรรทุกบางคันควบคุมความเร็วได้ยาก เมื่อเกิดการชะลอตัวจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุชนท้ายบ่อยครั้ง ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาวต่อเนื่อง โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสำรวจพื้นที่จริงและได้ข้อสรุปในการดำเนินการแก้ไขคือ จะขยับจุดเริ่มลดช่องทางจราจรออกไปอีกประมาณ 300 เมตร เพื่อเพิ่มระยะปลอดภัยและลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดบริการประชาชนบ้านธรรมรัตน์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายธีรพัฒน์ กันทาธรรม หัวหน้าควบคุมโครงการบริษัทพะเยาใบทอง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนและเร่งหามาตรการแก้ไข โดยในเบื้องต้นจะเร่งดำเนินการปรับพื้นที่บริเวณจุดลดช่องทางใหม่ และเร่งทำพื้นผิวจราจรฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ ให้แล้วเสร็จ ภายใน 7 วัน เพื่อเปิดให้รถสามารถวิ่งได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยลดปัญหารถสวนเลนและบรรเทาความแออัดบนถนนเพชรเกษมช่วงดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน นายวิกฤช เมืองโสมช่วย นายช่างโครงการกรมทางหลวง เปิดเผยว่า บางส่วนของโครงการยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับแนวทางการก่อสร้าง จึงต้องรอคำตัดสินก่อนดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากขึ้น เจ้าหน้าที่และผู้รับเหมาได้ปรับแผนทำงานบางส่วน เช่น การปูยางชั่วคราวปรับพื้นถนนให้เสมอกันเพื่อให้รถวิ่งได้คล่องขึ้น และคาดว่า ภายในสิ้นเดือนนี้ จะสามารถเปิดให้รถวิ่งได้ สองช่องทาง ซึ่งจะช่วยระบายการจราจรได้ดีขึ้นอย่างมาก
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะเร่งรัดการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานงานใกล้ชิดกับชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
#ภูมิภาค-32








