วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 กระทรวงดีอี ผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมผลักดัน SMEs นำเทคโนโลยีมาใช้งานจริง พร้อมร่วมประกาศความร่วมมือเพื่อยกระดับธุรกิจการค้าด้วยดิจิทัล ในงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST หวังร่วมกันสร้าง SMEs ไทย พร้อมแข่งขันในโลกแห่ง AI และเทคโนโลยี เพื่อพลิกฟื้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและทันโลก โดยได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ
ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST พลิกเกมธุรกิจไทย สู่ยุคดิจิทัลอย่างไร้ขีดจำกัด งานแสดงเทคโลยี นวัตกรรม และการเงินดิจิทัลแก่ SMEs ไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเกิดขึ้นจากการผนึกกำลังระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงอุตสาหกรรม โดย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า โดยมี ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึง ดร.ปรีสาร รักวาทิน รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า พร้อมทีมงานร่วมในพิธีเปิดงานโดยพร้อมเพรียง
ดร.ธนกร กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การแข่งขันทางการค้า มาตรฐานสินค้า ตลอดจนการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจไทย ด้วยเหตุนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้เร่งดำเนินการยกระดับให้ SMEs ไทย สามารถที่จะอยู่รอด เข้มแข็ง และทักษะแรงงานให้พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ การก้าวออกจากตลาดท้องถิ่นไปสู่การแข่งขันในห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก งาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST ไม่ใช่เพียงเวทีแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทย แต่เป็นภาพสะท้อนของพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการขับเคลื่อน SMEs ไทยทั้งประเทศให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นประธานเปิดงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST ในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568) ว่า การจัดงานในวันนี้เป็นการผนึกกำลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินงานตามแนวทาง ‘Quick Big Win’ ของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ โดยมุ่งเน้นการสร้างผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ชัดเจน และเป็นการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมทั้งการ Upskill และ Reskill ผู้ประกอบการให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อสนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการยกระดับธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เป็นเจ้าภาพในการประสานความร่วมมือ เนื่องจากมีพันธมิตรและผู้ประกอบการในเครือข่ายทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลให้ผู้ประกอบการเข้าถึงมาตรการสนับสนุนและแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึง
ดร.จีราวรรณ บุญเพิ่ม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) กล่าวว่า งาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ถือเป็นก้าวสำคัญของหน่วยงานภาครัฐที่มุ่งมั่นผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของ AI และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยบทบาทของภาครัฐในวันนี้ต้องทำให้ SMEs สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง ในต้นทุนที่จับต้องได้
ดร.จีราวรรณ กล่าวต่อว่า กระทรวงดีอี โดย ดีป้า ผลักดันให้เกิด Digital Transformation เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติของธุรกิจ แต่ด้วยผลกระทบจากการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ คลื่นของ Digitalization และ AI รวมถึงกติกาโลกสีเขียว ทั้งหมดส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของ SMEs และทำให้เห็นว่า Digital Transformation แบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องยกระดับการเปลี่ยนผ่านของผู้ประกอบการสู่ AI Transformation เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูล คิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ AI Transformation ที่ดำเนินการโดย ดีป้า
“โครงการ AI Transformation เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย AI Transformation ปรับเพื่อรอด เปลี่ยนเพื่อเศรษฐกิจไทย โดยจะกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม ผ่านการส่งเสริม 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) การยกระดับธุรกิจด้วยดิจิทัลตามมาตรการ d-transform วงเงินสนับสนุนสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ผู้ประกอบการ SMEs รวม 600 ราย (กลุ่มธุรกิจภาคการผลิต 200 ราย | กลุ่มธุรกิจการค้าและบริการ 300 ราย | กลุ่มเกษตรแปรรูป 100 ราย) 2) การส่งเสริมการเริ่มต้นใช้งานดิจิทัลตามมาตรการ d-voucher โดย ดีป้า จะมอบสิทธิ์การใช้ดิจิทัลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนแก่ผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย 10,000 ราย และเกษตรกร 5,000 ราย นอกจากนี้ ดีป้า ยังได้ร่วมกับ กรมสรรพากร มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการ โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้สูงสุด 200% วงเงินไม่เกิน 300,000 บาท* และมาตรการส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่ง SMEs ที่ลงทุนในซอฟต์แวร์จากบัญชีบริการดิจิทัลจะได้รับการยกเว้นภาษีสูงสุด 5 ปีเต็มในอัตรา 100% ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่จะได้รับการยกเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 3 ปีในอัตรา 50%*” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
*เงื่อนไขเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร และตามที่บีโอไอกำหนด
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) กล่าวถึงการสนับสนุนด้านการเงินในฐานะพันธมิตรการเงิน – พลังต่อยอดและเงินทุนเพื่อขยายผลว่า SME D Bank เข้าใจดีว่า การเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ดิจิทัลต้องใช้เงินทุน ทาง SME D Bank จึงพร้อมสนับสนุนด้านการเงินครบวงจร โดยเฉพาะสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ AI Transformation โดยทาง SME D Bank จะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปเพื่อให้ SMEs มีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยี และเม็ดเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจว่า การลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลจะนำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นการพลิกเกมการค้าไทยอย่างแท้จริง
ภายในงาน SMEs D-DAY: DIGITAL BOOST นี้ ยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมที่เป็นเทคโนโลยีส่งเสริมการขายหลายรายการ อาทิ เครื่อง POS ระบบจัดการคิวและเมนูออนไลน์ เครื่อง POS ระบบดูยอดขาย-สต๊อกผ่านไลน์ แชตบอตช่วยตอบลูกค้า ฯลฯ เทคโนโลยีเพื่อจัดการการเงินและบัญชี อาทิ ระบบบัญชีการเงินผ่านระบบคลาวด์ ฯลฯ เทคโนโลยีระบบดูแลธุรกิจหรือระบบหลังบ้าน อาทิ ระบบจัดการสินทรัพย์องค์กร ระบบจัดการ HR/Payroll และระบบตรวจสอบสลิปปลอม ระบบตรวจสอบประวัติพนักงาน/OCR Solution ระบบคลาวด์โซลูชัน ฯลฯ เทคโนโลยีเพื่อบริหารจัดการธุรกิจ อาทิ ข้อมูลพลังงานความยั่งยืนและ Carbon Footprint ระบบบริหารจัดการธุรกิจ ERPฯลฯ ซึ่งเทคโนโลยีทุกประเภทเปิดให้ผู้ประกอบการได้ทดลองใช้ฟรี 6 เดือนก่อนตัดสินใจลงทุนอีกด้วย
ผู้ประกอบการและเกษตรกรที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์/บริการดิจิทัล และสมัครเข้าร่วมโครงการ AI Transformation ได้แล้ววันนี้ – 16 มกราคม 2569 ที่ http://aitransform.depa.or.th หรือติดตามข่าวสารของโครงการฯ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการและรับสิทธิประโยชน์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 026 2333 ต่อ 3204 – 7, 1069 และ 1312








