วันที่ 7 พ.ย.2568 ที่ร้านบิ้กซุปเปอร์ถูก ริมถนนกสิกรทุ่งสร้างต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น น.ส.นงค์นุช อุดมคำ พาณิชย์จังหวัดขอนแก่นพร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภค บริโภคและอาหารสด ผักผลไม้ ที่วางขายภายในร้านดังกล่าว โดยมีนายธระพงษ์ พรมวงศ์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านพาเดินตรวจสินค้าภายในร้าน ซึ่งพบว่าราคาสินค้าที่วางขายในร้านนั้นถูกกว่าที่วางขายในร้านค้าอื่นชนิดละ 2-3 บาท โดยเฉพาะอาหารสด เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ลุกชิ้นหมู ลูกชิ้นเนื้อ อาหารทะเล และอาหารแช่แข็ง ส่วนใหญ่แพ็คขายแพ็คละ 20 บาททุกชนิด ส่วนผลไม้ขายแพ็คละ 20 บาทเช่นกัน
นายธระพงษ์ พรมวงศ์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ร้านขายราคาถูกทุกชนิด เพราะที่ร้านลงสินค้าแต่ละชนิดในปริมาณที่มาก จึงได้ราคาถูกและขายถูกกว่าที่อื่น ขายถูกเพื่อให้ลูกค้าได้มาจับจ่ายได้อย่างทั่วถึง มีกำไรเล็กน้อยก็พอ ลูกค้าจะได้มาซื้อสินค้าที่ร้านได้เรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่ที่ร้านจะจำกัดสิทธิ์ลูกค้าในการซื้อน้ำมันพืชเท่านั้น เพราะเมื่อมีราคาถูก บางคนก็จะซื้อจำนวนมาก จึงต้องจำกัด เพื่อแบ่งให้คนอื่นได้ซื้อไปใช้บ้าง
ขณะที่ น.ส.นงค์นุช อุดมคำ พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สินค้าที่วางขายก็เป็นสินค้าตัวเดียวกับร้านค้าใหญ่ในเมืองขอนแก่นหลายแห่ง ในส่วนของการขายราคาถูกนั้น ก็เป็นกลไกทางการค้าที่จะดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อสินค้าในร้าน ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาถูกจนน่าเกลียด แต่ถือว่าลูกค้าสามารถเข้ามาจับจ่ายได้อย่างคล่องตัวแล้วยังใช้คนละครึ่งได้ด้วย
"ฝากถึงร้านค้าทุกร้านในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ว่า ถ้าร้านใดที่เข้าร่วมโครงการของรัฐ อย่าทำผิดกฎระเบียบ เพราะที่ผ่านมาพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น ได้ตรวจสอบร้านค้าในต่างอำเภอที่ได้ทำผิด ในกรณีรับบัตรประชาชนของผู้ใช้สิทธิ์สวัสดิการของรัฐ ผู้ใช้สิทธิ์ใช้เพียงไม่กี่ร้อยบาท ที่เหลือร้านค้าก็ทอนเป็นเงินสดให้ ซึ่งเป็นการทำผิดระเบียบ จึงได้ยกเลิกสิทธิ์กับร้านค้าดังกล่าวแล้ว 4 ราย ในส่วนของประชาชนนั้นก็อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีดำเนินการอย่างไรต่อไป"
#ภูมิภาค-48