"จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกปกติ ชี้รัฐบาลไม่ต้องห่วงหากมั่นใจไร้ทุจริต "ฮั้ว ส.ว.-เขาพะโดง" ยัน ฝ่ายค้านไม่ทิ้งหน้าที่ปกป้องชาติจากการคอร์รัปชัน แม้กำลังเผชิญอุปสรรคใหญ่ในการผลักดัน "แก้รัฐธรรมนูญ" ที่ถูกเตะถ่วงด้วยเงื่อนไข ส.ว. 1 ใน 3 และกรอบเวลา 4 เดือนที่กระชั้นชิด เตรียมหารือผู้ใหญ่กำหนด "จังหวะทอง" ยื่นญัตติ
วันที่ 7 พ.ย.2568 เวลา 11.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นกระบวนการปกติในการตรวจสอบรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องของการด่า และอยากให้รัฐบาลมองว่าเป็นการตรวจการบ้าน หากรัฐบาลมั่นใจว่าการประพฤติของตนถูกต้อง และไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชันใด ๆ ตามที่ถูกกล่าวหา เช่น เรื่องฮั้ว ส.ว. หรือเขาพะโดงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เวทีสภาเป็นเวทีเปิดที่รัฐบาลสามารถใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงและทำความเข้าใจต่อทั้งสภาและประชาชนที่รับฟังอยู่ทางบ้านได้ ฝ่ายค้านต้องพิจารณาอย่างรอบด้านในการยื่นอภิปราย โดยดูข้อมูลว่าการกระทำความผิดสมบูรณ์หรือไม่ และมีการดำเนินการที่ผิดพลาดโดยรัฐบาลจริงหรือไม่
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ฝ่ายค้านยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะโอกาสที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จนั้นเป็นไปได้น้อย เนื่องจากบรรยากาศในการประชุมของคณะกรรมาธิการ หากมีการติดตามบันทึกการประชุม ก็จะทราบว่าใครพยายามผลักดันและติดขัดในส่วนใด ปัจจัยที่ทำให้อุปสรรคการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีมากขึ้น คือ กรอบเวลา 4 เดือนที่มีอยู่นั้นกระชั้นชิด เนื่องจากกฎหมายประชามติกำหนดให้ต้องมีเวลาอย่างน้อย 60 วันเมื่อรัฐสภาส่งเรื่องไปที่ ครม. เพื่อส่งต่อ กกต. และรัฐธรรมนูญกำหนดให้การลงมติวาระ 2 และวาระ 3 ต้องห่างกัน 15 วัน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการดูเชื่องช้า และมีข้อเสนอที่เป็นอุปสรรค เช่น ข้อเสนอที่ว่าก่อนจะนำร่างรัฐธรรมนูญไปลงประชามติ ต้องให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ โดยต้องคงสัดส่วนสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อย่างน้อย 1 ใน 3 ที่ต้องเห็นด้วยไว้ การกำหนดสัดส่วน ส.ว. 1 ใน 3 นี้เป็นปัญหามาโดยตลอดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
“ฝ่ายค้านยืนยันว่าถึงแม้จะคำนึงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการทำงานของฝ่ายค้านในการป้องกันความเสียหายของประเทศชาติจากการทุจริตคอร์รัปชัน หรือการปัดเป่าคดีต่าง ๆ ได้ ขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเรื่องกำหนดการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทางพรรคจะต้องมีการประชุมหารือกับผู้ใหญ่หลายท่านเพื่อกำหนดความเหมาะสมและจังหวะเวลาในการดำเนินการต่อไป”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว








