มช. เปิดวิสัยทัศน์ “Global Innovation” หนุนงานวิจัยรางวัลระดับโลกสู่การ Spin-off พร้อมดึงพันธมิตร Raisewell Venture จาก Silicon Valley เสริมระบบนิเวศนวัตกรรม
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ประกาศก้าวสำคัญสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยนวัตกรรมเชื่อมโยงสู่สากล” ผ่านการจัดงาน IMO Day 2025 ภายใต้ธีม CMU Global Innovation & Ang Kaew Holding Spin-off เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ณ Rice Grain Auditorium อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งมีการแถลง “CMU Vision for Global Innovation” วิสัยทัศน์เพื่อขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก โดย ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงถึงกรอบการพัฒนา 3 มิติหลัก ได้แก่ 1) มิติการเรียนการสอน ที่เน้นยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ ด้วยการเพิ่มหลักสูตรนานาชาติและหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างประเทศ บ่มเพาะทักษะเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ เตรียมบัณฑิตให้พร้อมทำงานในเวทีโลก, 2) มิติการวิจัยและพัฒนา ที่มุ่งเดินหน้า Collaborative Global Research สนับสนุนงานวิจัยร่วมกับสถาบันระดับโลก แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพผลงานให้เทียบชั้นสากล และนำองค์ความรู้กลับมาต่อยอดเศรษฐกิจและสังคมไทย และ3) มิติการประกวดนานาชาติ ที่เปิดพื้นที่ให้อาจารย์และนักวิจัยเข้าร่วมเวทีประกวดนวัตกรรมระดับนานาชาติ รับคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิชั้นนำของโลก และต่อยอดศักยภาพเชิงพาณิชย์ของผลงาน
อธิการบดี ระบุว่าเพิ่มเติมว่า การแปลงผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ถือเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญของมหาวิทยาลัย โดยมี บริษัท อ่างแก้ว โฮลดิ้ง จำกัด เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการจัดตั้งบริษัท Spin-off จากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย ภายใต้ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรมและการเข้าถึงแหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตและสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมี พิธีมอบประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ แก่อาจารย์และนักวิจัยที่คว้ารางวัลจากเวทีนานาชาติ 4 เวที ในสาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐโปแลนด์ และสมาพันธรัฐสวิส ระหว่างปี 2566–2568 รวมทั้งสิ้น 28 ผลงานวิจัย จำนวน 46 รางวัล ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของระบบวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัย ที่สามารถก้าวข้ามขอบเขตของห้องแล็บและการตีพิมพ์ทางวิชาการ สู่การต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม
บรรยากาศในงานยังเต็มไปด้วยพลังของผู้ประกอบการนวัตกรรมรุ่นใหม่ ด้วยการ Flash Pitching จากบริษัทลูกในเครือ บริษัท อ่างแก้ว โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 18 บริษัท ที่มานำเสนอผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยที่พร้อมสู่เชิงพาณิชย์ อาทิ วัสดุโครงข่ายโลหะ-อินทรีย์สำหรับการดักจับคาร์บอนในงานอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ส่งเสริมการเรียนรู้พัฒนาทักษะแห่งอนาคต ผลิตภัณฑ์สารสกัดขะจาวรักษาแผลสัตว์ เครื่องดื่มจากสารสกัดโอลิโกแซคคาไรด์โดยใช้เอนไซม์จากข้าว และบริการ อาทิ ระบบบริหารจัดเวรเปลในโรงพยาบาล ระบบบริหารหอพักและตลาดสด เทคโนโลยีการสร้างปรากฏการณ์แสง สี เสียง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว ระบบการจัดการแสง–สี–เสียงสำหรับงานสัมมนาและวิชาการ บริการด้านทรัพย์สินทางปัญญา และแพลตฟอร์มแม่บ้านออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นอีกก้าวของการสร้าง “มหาวิทยาลัยแห่งผู้ประกอบการ” อย่างแท้จริง
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานคือ Special Talk โดย คุณ Jeep Kline ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารกองทุน Raisewell Ventures ที่เป็น Impact Fund ระดับโลกจาก Silicon Valley และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ (Professional Faculty) ที่ UC Berkeley ภายใต้ประเด็น “Riding the Wave of AI: Harnessing Thailand’s Deep and Hard Tech Power” โดยมี ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ อธิการบดีฝ่ายนวัตกรรม ให้เกียรติทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ พร้อมเปิดมุมมองว่าด้วยอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และศักยภาพของประเทศไทยในการขับเคลื่อน Deep Tech ของไทยในเวทีโลก
อย่างไรก็ตาม นโยบาย “CMU Vision for Global Innovation” ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนบทบาทใหม่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการบูรณาการ “การเรียนรู้ – การวิจัย – ผู้ประกอบการเทคโนโลยี” เข้าสู่ระบบนิเวศนวัตกรรมอย่างครบวงจร ที่ก้าวจากสถาบันการศึกษา สู่ศูนย์กลางการสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลก (Global Innovation Hub) ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้จากห้องเรียนและห้องแล็บ สู่นิเวศเศรษฐกิจและสังคมโลกอย่างแท้จริง
