นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กู้เงินเพื่อใช้เสริมสภาพคล่องในการดำเนินงานกรณีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินรวม 18,000 ล้านบาท โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 39 (4) ซึ่งกำหนดให้การกู้ยืมเงินเกินกว่า 5 ล้านบาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการ ทั้งนี้ที่ประชุมครมเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ พร้อมมอบหมายให้พิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ วิธีการ เงื่อนไข และรายละเอียดที่เหมาะสม รวมถึงยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ เพื่อช่วยลดภาระทางการเงินของการรถไฟฯ
นายอนันต์ กล่าวว่า สำหรับวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติในครั้งนี้ การรถไฟฯ จะนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ทั้งในส่วนของการโดยสารและการขนส่งสินค้า อาทิ การซ่อมบำรุงสะพานและรางรถไฟ การบำรุงรักษารถจักร รถโดยสาร รถสินค้า และรถพ่วงที่มีอายุการใช้งานยาวนาน เพื่อให้มีสภาพพร้อมใช้งานและเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังจะนำไปใช้ในการบำรุงรักษา ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบประแจกล และระบบกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินรถ ตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อการให้บริการประชาชนในทุกเส้นทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร จึงจำเป็นต้องกู้เงินดังกล่าวเพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้การรถไฟฯ ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ โดยจะเร่งดำเนินมาตรการ เพิ่มรายได้จากการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร รวมถึงการบริหารทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นรายได้หลักขององค์กร ควบคู่ไปกับเงินอุดหนุนจากภาครัฐในส่วนของการชดเชยผลขาดทุนและรายได้ค่าโดยสาร ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานของการรถไฟฯ มีความมั่นคง ยั่งยืน และสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป








