บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) ยกระดับความปลอดภัยประชาชน ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (1669) ทดสอบส่งพิกัดผู้แจ้งเหตุผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Advanced Mobile Location (AML) ทำให้ยกระดับการแจ้งเหตุฉุกเฉิน การขอความช่วยเหลือฉุกเฉินของประเทศไทยรวดเร็วเข้าถึงจุดช่วยเหลือทันท่วงที
นายบุญมา ขำโป๊ย ผู้จัดการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ และ นายธีรวัฒน์ ไพบูลย์กุลกร ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมโครงข่ายสื่อสารไร้สาย พร้อมทีมวิศวกรรมด้านบริการสื่อสารไร้สาย NT เข้าร่วมประสานการทดสอบระบบการส่งตำแหน่งที่ตั้งแบบละเอียดของผู้โทรฉุกเฉินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อัตโนมัติที่ 191 ณ กองกำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ อาคารกองบังคับการตำรวจจราจร ถนนวิภาวดีรังสิต การทดสอบดังกล่าวช่วยให้ 191 และ 1669 สามารถรับพิกัดของผู้แจ้งเหตุหรือผู้ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินที่แจ้งผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้อย่างรวดเร็ว และเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการเครือข่าย my by NT ที่ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ เพิ่มเติม โดยเมื่อผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โทรไปยัง 191 หรือ 1669 ระบบจะส่งพิกัดโดยอัตโนมัติ ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันเวลา ลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย พร้อมการปกป้องข้อมูลตามมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับเทคโนโลยีพิเศษ Advanced Mobile Location (AML) มีขั้นตอนทำงาน ดังนี้
1. โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครือข่าย my by NT
2. เครื่องโทรศัพท์คำนวณพิกัดความแม่นยำสูงด้วย GPS หรือ สัญญาณเครือข่ายอื่นๆ เพื่อให้ได้พิกัดที่แม่นยำที่สุด
3. ระบบทำการส่งพิกัดความแม่นยำสูงผ่านเครือข่าย my by NT ไปยังศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินทันที และอัปเดตพิกัดระหว่างสนทนากับศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน
4. ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือ ตามพิกัดที่ได้รับอย่างรวดเร็ว และยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้น
5. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยแสดงพิกัดเฉพาะเมื่อมีการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินเท่านั้น








