วันที่ 4 พ.ย.68 กองทัพไทยยืนยันว่า “การสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาดำเนินการตาม เงื่อนไขหลัก 4 ข้อ ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศและการสังเกตการณ์ของอาเซียน (ASEAN Observer Team: AOT) ดังนี้
1. การถอนอาวุธประเภทจรวดออกจากพื้นที่ชายแดน
กองทัพทั้งสองประเทศจะต้องถอนอาวุธประเภทจรวดซึ่งมีอำนาจในการทำลายล้างสูงออกจากแนวชายแดนภายใต้การกำกับดูแลของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการถอนอาวุธแต่กองกำลังป้องกันชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่เดิม เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
2. การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ต้องให้มีการดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน 5 พื้นที่ ได้แก่
• บ้านสายโท 10 ใต้ จ.บุรีรัมย์
• ช่องเหว จ.สุรินทร์
• บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
• บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว
• บ้านชำราก จ.ตราด
ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยได้ดำเนินการมีผลความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
3. การปราบปรามขบวนการไซเบอร์สแกม
ต้องมีการดำเนินการตาม Action Plan ที่ได้ลงนามไว้ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568
4. การบริหารจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ต้องมี การดำเนินการตามผล การประชุม JBC สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2568
กองทัพไทยยังคงยืนหยัดในหลักสันติวิธี เคียงข้างประชาชน พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ เพื่อปกป้องความมั่นคงและอธิปไตยของชาติอย่างสูงสุด
การเมืองทั่วไป
กองทัพไทยยันไม่ปล่อยเชลยศึก ย้ำ 4 เงื่อนไขยุติความเป็นปรปักษ์กับกัมพูชา
แชร์ข่าว
ข่าวแนะนำ
สาวน้อย 16 เจอมิจฉาชีพออนไลน์ สูญเงิน 400 บาท เตือนภัย“งานง่ายแค่ปลายนิ้ว”ระบาดหมู่เยาวชน
ข่าวภูมิภาค
แชร์ข่าว








