วันนี้ (4 พ.ย. 68) เวลา 13.30 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเร่งรัดการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 กำชับ ปภ. ประสานจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัย เร่งลงทะเบียนผู้ประสบอุทกภัยที่เข้าหลักเกณฑ์การได้รับความช่วยเหลือฯ และตรวจสอบยืนยันข้อมูลตามขั้นตอนที่กำหนดให้ครบถ้วน ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือ 9,000 บาท โดยเร็วที่สุด โดยมีนายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนัก/กองส่วนกลาง ปภ. หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เข้าร่วมประชุม ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 6,169.986 ล้านบาท โดยจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้กับประชาชนในพื้นที่ 65 จังหวัด 685,554 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบใน 2 กรณี ได้แก่ ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังไม่เกิน 7 วัน และมีทรัพย์สินเสียหาย และที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วัน ขึ้นไป
“ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา จึงได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มาช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่อยากให้เงินเยียวยาถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด จึงได้เร่งรัดให้ ปภ. ประสาน 65 จังหวัด เร่งกระบวนการในการประสานงานกับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับประชาชน ตลอดจนเร่งประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อจังหวัดจะได้นำข้อมูลส่ง ปภ. อย่างครบถ้วน ภายในสัปดาห์นี้ และ ปภ. จะได้จัดส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินจ่ายเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์แก่ผู้ประสบภัยต่อไปโดยเร็วที่สุด” รมช.มท.ศักดิ์ดา กล่าว
โดยข้อมูลจากกองช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่า ปัจจุบันมีผู้ประสบภัยลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาอุทกภัยในระบบ https://flood68.disaster.go.th ที่ จำนวน 62 จังหวัด 273,718 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 39.93 ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล พร้อมยืนยันส่ง ปภ. แล้ว จำนวน 20 จังหวัด 116,499 ครัวเรือน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว จำนวน 116,409 ครัวเรือน โดยเมื่อวานนี้ (3 พ.ย. 68) โอนเงินครั้งแรกให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ชัยนาท จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง เลย พิจิตร เพชรบูรณ์ สมุทรปราการ และจังหวัดสระแก้ว โอนเงินสำเร็จ จำนวน 67,050 ครัวเรือน เป็นเงิน 603.450 ล้านบาท มีครัวเรือนที่โอนเงินไม่สำเร็จ จำนวน 1,044 ครัวเรือน เนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียน PromptPay ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัญชีไม่ปกติ และในวันนี้(4 พ.ย. 68) ธนาคารออมสินจะทำการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย ครั้งที่ 2 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 12,702 ครัวเรือน และในวันที่ 6 พ.ย. 68 จะเป็นการโอนเงินช่วยเหลือ ครั้งที่ 3 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย ปทุมธานี เลย เชียงใหม่ อ่างทอง จันทบุรี และจังหวัดระนอง จำนวน 16,399 ครัวเรือน และคาดว่าในวันที่ 7 พ.ย. 68 จะโอนเงินช่วยเหลือ ครั้งที่ 4 ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา จันทบุรี เชียงราย และจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 19,214 ครัวเรือน








