วันที่ 4 พ.ย.2568 เวลา 11.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเปิดชื่อสส.พรรคเพื่อไทย ที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ว่า หลังจากที่มีการปรากฏเป็นข่าวได้มีการโทรไปพูดคุยกับบุคคลที่ถูกพาดพิง ได้รับคำตอบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยทางพรรคยินดีให้การตรวจสอบเพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ส่วนที่จะมีการดำเนินคดีกลับหรือไม่นั้น เจ้าตัวจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อนเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองในการกล่าวพาดพิง เกิดความเสียหายที่ต้องดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง
เมื่อถามถึงในช่วงที่เป็นรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มีการตรวจสอบความเชื่อมโยงของนักการเมืองบ้างหรือไม่ เพราะเมื่อมาเป็นฝ่ายค้านกลับมีการเปิดชื่อนักการเมืองมากขึ้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ในสมัยนั้นมีการปิดกั้นเว็บพนัน และเว็บต่างๆที่ไม่พึงประสงค์ตามพระราชกำหนดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดทางคอมพิวเตอร์ ที่ตอนนั้นใช้เทคโนโลยีเอไอ หมายถึง เว็บไซต์หรือแอพใดที่เป็นข้อสงสัยจะถูกปิดทั้งหมด ซึ่งในช่วงเวลานั้นใช้เอไอ ปิดได้เยอะพอสมควร ไม่เว้นหน้าไหน ฉะนั้น เรื่องนี้ขณะนั้นได้ตรวจสอบแล้ว และในกรณีที่ปรากฏเป็นคดีเราก็ประสานความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เมื่อถามว่า จะนำเรื่องดังกล่าวไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่ให้ความสำคัญเพราะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและมีมูลค่าความเสียหายเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลัง โดยในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมข้อมูล ซึ่งขณะนี้มีอยู่หลายประเด็น ส่วนจะไปพูดคุยกับพรรคประชาชนด้วยหรือไม่นั้น ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในอดีต เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ส่วนพรรคประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำฝ่ายค้านตนไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ด้วย
เมื่อถามว่า ได้พิจารณาไว้หรือไม่ว่าหากพรรคพรรคเพื่อไทยจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทางรัฐบาลอาจจะชิงยุบสภาก่อนนายประเสริฐ กล่าวว่า เรามองแนวนั้นเช่นกัน หากเรายื่นแล้ว ประธานสภาฯ รับแล้ว รัฐบาลไม่สามารถยุบสภาได้ ฉะนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ยุบสภาก่อน อาจจะเป็นการชิงหนี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ได้คาดการณ์เอาไว้
เมื่อถามว่าจะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในช่วงเวลาปิดสมัยประชุมสภาฯ ทางพรรคเพื่อไทยพยายามเร่งให้ผ่านวาระ 2 และ 3 ให้เรียบร้อย จึงอยากฝากบอกรัฐบาลว่าควรเร่งดำเนินการด้วย เพราะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อฝ่ายค้านพบว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นเขาจำเป็นต้องยื่น อย่างไรก็ตาม ความประสงค์ร่วมกันเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ควรเร่งดำเนินการ ซึ่งจากไทม์ไลน์หากเร่งดำเนินการจะสามารถทำได้ทันในวาระ 2 และ 3








