เมื่อเข็มนาฬิกาบอกเวลา 00.30 น. ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ความลับที่ซ่อนอยู่หลังประตูห้องสวีทในโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท 13 ก็ถูกเปิดออกอย่างไม่ทันตั้งตัว!
นี่คือปฏิบัติการสายฟ้าแลบที่ชื่อว่า “ทลายปาร์ตี้เหมืองทอง” ภายใต้การบัญชาการของ "บิ๊กต่าย" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ที่สั่งการให้ใช้มาตรการเด็ดขาด สแกนแหล่งท่องเที่ยวเพื่อตัดวงจรยาเสพติด โดยมีหัวหอกคนสำคัญอย่าง "บิ๊กราญ" พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร., "บิ๊กเปีย" พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร., "บิ๊กกลอฟ์" พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส., และ "บิ๊กหยาม" พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ร่วมผนึกกำลัง
จุดเริ่มต้นมาจากเบาะแสร้อนฉ่าที่ประชาชนแจ้งผ่านชุดลาดตระเวนออนไลน์ ชี้เป้าถึงแหล่งมั่วสุมสุดลับของกลุ่มชายรักชาย LGBTQ+ ที่ใช้ชื่อวิมานสวาทแห่งนี้ว่า “ปาร์ตี้เหมืองทอง” ที่ซึ่งเต็มไปด้วยการเปลือยกาย "เสพยา-มั่วสวาท" อย่างเปิดเผย สะท้อนการแพร่ระบาดยาเสพติดในกลุ่มที่เรียกได้ว่า "ชนชั้นสูง"
ทีมงานสืบสวนสอบสวนนำโดย "บิ๊กจ๋อ" พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. จึงส่งสายสืบ "หุ่นล่ำกล้ามดี" เข้าไปแฝงตัวในวงการมั่วสวาทดังกล่าว จนกระทั่งได้ข้อมูลการนัดหมายเพื่อจัดงานระเบิดความมันส์และมั่วสุมยาเสพติด
ปฏิบัติการจู่โจมก็เริ่มต้นขึ้น! ทัพเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ศอ.ปส.ตร., ศอ.ปส.บช.น., บก.สส.บช.น., บก.น.5 และ บช.ปส. กว่า 50 นาย นำโดย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. และทีมงานอื่นๆ ได้รับคำสั่งให้ “บุกเข้าทางประตูหลัง” ของโรงแรมอย่างฉับพลันทันที
กองทัพเจ้าหน้าที่ ได้ทะลวงขึ้นไปสู่ห้องสูทที่เป็นจุดมั่วสุม ภาพที่ปรากฏต่อหน้าตำรวจ คือ กลุ่มชาย LGBTQ+ กว่า 29 ชีวิต ในจำนวนนี้เป็นชาวไทย 28 คน และชายชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสวมเพียงกางเกงในตัวเดียว เมื่อบุกตรวจค้นตามห้องเล็กๆ ที่แบ่งไว้ พบว่าหลายห้องกำลังมีการมั่วสุมสวาทกันอยู่!
ของกลางที่ยึดได้ทำเอาเจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง! มีทั้ง ยาไอซ์ 1.11 กรัม, ยาบ้า 2 เม็ด, ยาอี (แบบน้ำ) 1 ขวด, เคตามีน 0.75 กรัม, ยาไวอากร้า 2 กล่อง, ยาป๊อปเปอร์ (สารระเหย) จำนวน 30 ขวด, เข็มฉีดยา 10 เข็ม พร้อมอุปกรณ์การเสพยาเสพติด นอกจากนี้ยังพบ ถุงยางอนามัยใช้แล้วถอดเกลื่อนกลาด และ เจลหล่อลื่น รวมถึงสิ่งที่น่าตกใจ คือ อุจจาระสีเหลืองเปรอะตามเตียงมั่วสุม! เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เพื่อดำเนินการสอบสวน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างชัดเจน 4 ราย โดยมีผู้ที่ถูกแจ้งข้อหาหลักรวม 3 ราย คือ นายทวีพล (อายุ 35 ปี) ชาวอ่อนนุช กรุงเทพฯ ถูกแจ้งข้อหาหนักถึง 4 ข้อหาหลัก ทั้ง "มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน,ยาบ้า,ยาไอซ์ และยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย", "มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) เพื่อเสพโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย", "จำหน่ายหรือจัดหาสารระเหยให้แก่ผู้ซึ่งตนรู้หรือควรรู้ว่าเป็นผู้ติดสารระเหย" และ "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1"
ถัดมา คือ นายพงศกรณ์ (อายุ 34 ปี) ชาวสมุทรปราการ โดนข้อหา "มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย" และ "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1"
ส่วนรายที่ 3 คือ นายกฤตยชญ์ (อายุ 27 ปี) ชาวลพบุรี ถูกตั้งข้อหา "มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ )", "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" และข้อหาร้ายแรงคือ "จูงใจ ชักนำ ยุยง ส่งเสริมใช้อุบายหลอกลวง ให้ผู้อื่นเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และสารระเหย" ตามมาตรา 171 และ 173
ขณะที่ นายสติวณิตย์ (อายุ 31 ปี) ชาวเพชรบูรณ์ โดนข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" เพียงข้อหาเดียว โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ที่มี พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ควบคุมการดำเนินคดีต่อไป
"บิ๊กจ๋อ" พล.ต.ต.ธีรเดช ยังได้ฝากคำเตือนถึงภัยของยา ป๊อปเปอร์ (Popper) หรือเอมิลไนไตรท์ ซึ่งเดิมเป็นสารทางการแพทย์ แต่กลับถูกกลุ่มชายรักชายนิยมนำมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อลดอาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายเพราะต้องใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์เท่านั้น
ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ จากการขยายผล ทราบว่ากลุ่มผู้จัดกิจกรรมมั่วสุมยาเสพติดในครั้งนี้ เป็น "กลุ่มเดียวกับที่เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.67 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ" แสดงให้เห็นชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้สำนึกในการกระทำผิดเลยแม้แต่น้อย
ทางด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. จึงได้สั่งการให้บูรณาการร่วมกับ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. ในการขยายผลให้ถึงเครือข่ายนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ในส่วนของผู้ร่วมปาร์ตี้ที่เหลืออีก 25 รายนั้น พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ได้ดำเนินการจัดทำประวัติและอยู่ระหว่างการซักถามขยายผลเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ คำสั่งของ ผบ.ตร. จึงไม่ใช่เพียงการจับกุม แต่คือการส่งสัญญาณเตือนถึงสังคมว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งการปราบปรามจะมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สัมคมไทยดีขึ้น
#ปาร์ตี้เหมืองทอง #ทลายปาร์ตี้ยา #เกย์ไฮโซ #บิ๊กต่าย #ยาเสพติด #สุขุมวิท13 #ตำรวจปราบยา #LGBTQ+ #มั่วสุมยา #ยาป๊อปเปอร์








