ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช สั่งด่วนทุกหน่วย ลุยกำจัดผักตบชวาลุ่มน้ำปากพนัง หลังสะสมล้านตันกระทบระบบนิเวศ เสี่ยงปัญหาระบายน้ำช่วงน้ำหลาก
ภายหลังจากมีการเปิดเผยภาพผักตบจำนวนมหาศาลนับล้านตันบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง เหนือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ์ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปากพนัง นครศรีธรรมราช ผ่านสื่อมวลชน และการเปิดเผยข้อมูลปัญหาสภาพนิเวศน์ที่เสื่อมโทรมจากการตัดวงจรการเชื่อมโยงนิเวศน์ซับซ้อน 4 น้ำคือน้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเค็ม และน้ำเปรี้ยว ลักษณะพิเศษของของกลุ่มน้ำปากพนัง สร้างผลกระทบกับนิเวศน์และความมั่นคงทางอาหารในลุ่มน้ำปากพนังอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันการสะสมของตะกอนเลนเหนือประตูน้ำต่างๆ ทำให้ปริมาณไนโตรเจนเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวทำให้วัชพืชน้ำเช่นผักตบ ผักกระฉูด เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบอย่างหนักกับนิเวศน์ลำคลอง กลายเป็นปัญหาใหญ่ของลุ่มน้ำปากพนัง โดยเฉพาะเครือข่ายคลองซอย คลองย่อยของแม่น้ำปากพนัง
ล่าสุด วันที่ 4 พ.ย.68 หลังจากการเผยแพร่ข้อมูลออกไปปรากฏว่านายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้สำนักชลประทานที่ 15 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยระดมเครื่องจักรและทรัพยากร เข้าเร่งแก้ไขปัญหาวัชพืชโดยเฉพาะผักตบชวาเหนือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชน์ประสิทธิ์ ในแม่น้ำปากพนังเนื่องจากกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่และเร่งจัดการเพื่อรองรับการระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก
อย่างไรก็ตามปัญหานี้ไม่เฉพาะแค่บริเวณเหนือประตูระบายน้ำอุทกวิภาชน์ประสิทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีสภาพเดียวกันไปตลอดแม่น้ำปากพนังไปจนถึงอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด และยังมีคลองสาขาย่อยในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองบางส่วน สะท้อนถึงวิกฤตการทางนิเวศน์วิทยาลำน้ำของลุ่มน้ำปากพนังกำลังเข้าสู่วิกฤตอย่างหนัก ขณะเดียวกันยังมีความกังวลจากข้าราชการบางหน่วยงานเนื่องจากก่อนหน้านี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยคาดโทษไว้หากไม่ดำเนินการจัดการเรื่องผักตบชวาจะมีการโยกย้ายออกจากพื้นที่
#ภูมิภาค-72








