มะเร็งเต้านมคร่าชีวิตหญิงไทยเฉลี่ย 13 คน/วัน! ในงาน “Find your Personal PINK” ศิริราชเผยเทคโนโลยีการแพทย์แม่นยำ ตรวจยีน BRCA-อื่น ๆ พร้อมจับมือสตาร์ทอัพไทยใช้ AI วิเคราะห์แมมโมแกรมแม่นยำกว่า 94% เน้นย้ำ "การวินิจฉัยเฉพาะเจาะจง" คือกุญแจสำคัญสู่การรักษา
ศ. นพ.สิทธิ์ สาธรสุเมธี รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลคุณโรมัน รามอส (แถวหลัง กลาง) ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และ Frontier Markets ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำโดย ศ. นพ. มานพ พิทักษ์ภากร ภาควิชาอายุรศาสตร์ พร้อมด้วย คุณเชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ตัวแทนผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพตนเอง และพันธมิตรที่ดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ได้แก่ โครงการ Art for Cancer, ศูนย์ถันยรักษ์ โรงพยาบาลศิริราช, ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช, สถานวิทยามะเร็งศิริราช (SiCA), ลา โรซ-โพเซย์, เพอเซ็ปทรา, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ร่วมงานเสวนาภาคประชาชนและจัดแสดงบูทให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมสุขภาพสู้มะเร็งเต้านม ในงาน “Find your Personal PINK ค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบคุณ” ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็ว ๆ นี้
วันที่ 3 พ.ย. 2568 เนื่องในเดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยโรคมะเร็งเต้านม ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จำกัด บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วยพันธมิตรชั้นนำ จัดงาน “Find your Personal PINK ค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบคุณ” จัดงาน “Find your Personal PINK ค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบคุณ” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการตระหนักรู้เรื่องการคัดกรองมะเร็งเต้านมให้กับผู้หญิงไทย รวมทั้งเพิ่มความเข้าใจเรื่องโรคมะเร็งเต้านม วิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่มีความแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช
โรคมะเร็งเต้านมถือเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย และยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในผู้ป่วยมะเร็งหญิงไทยด้วย โดยข้อมูลทางสถิติของกรมการแพทย์ พบว่าในปี พ.ศ. 2563 มีผู้หญิงไทยป่วยด้วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ราว 18,000 คนต่อปี หรือคิดเป็น 49 คนต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมราว 4,800 คนต่อปี หรือคิดเป็น 13 คนต่อวัน โดยมีแนวโน้มอัตราการเกิดโรคเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี นับเป็นปัญหาสาธารณสุขของทุกประเทศทั่วโลก
“Find your Personal PINK ค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบคุณ” ตอกย้ำถึง “สีชมพู” ที่มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนผู้หญิง ที่ต่างคนก็มีบุคลิกเฉพาะตัว เช่นเดียวกับสีชมพูที่มีหลายเฉดสี และยังเป็นสีที่สื่อถึงเดือนแห่งการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยของมะเร็งเต้านม ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยโรคมะเร็งเต้านมมีหลายชนิดและแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย จึงส่งผลถึงการรักษาที่แตกต่างไปในแต่ละบุคคล การวินิจฉัยโรคที่เฉพาะเจาะจงจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงแบบใดหรือเป็นสีชมพูเฉดไหน สิ่งสำคัญคือการใส่ใจสุขภาพของตนเอง ด้วยการตรวจ คัดกรอง และรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบของคุณ เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้ผู้หญิงไทยอายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจมะเร็งเต้านมเป็นประจำ แนะนำให้ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังหมดประจำเดือน และควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์หรือเครื่องเอกซเรย์เต้านม (แมมโมแกรม) ตามเกณฑ์อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เพื่อการป้องกันและรักษาให้ทันท่วงที
ศ. นพ.สิทธิ์ สาธรสุเมธี รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช เป็นหน่วยงานสำคัญในการวิจัยพัฒนาการตรวจยีนมะเร็ง ศึกษาความคุ้มค่า และนำเสนอผลการศึกษา จนสามารถผลักดันให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อนุมัติเพิ่มสิทธิประโยชน์สำคัญสำหรับคนไทยคือ การตรวจหายีนมะเร็ง BRCA1 และ BRCA2 สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชาวไทยและรวมถึงญาติสายตรง ถือเป็นครั้งแรกที่การตรวจยีนมะเร็งถูกบรรจุในสิทธิประโยชน์สุขภาพของคนไทยทุกคน และไทยถือเป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีสิทธิประโยชน์นี้ในระดับประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมจัดการเสวนา นิทรรศการและกิจกรรมให้ความรู้ในหัวข้อ “Find your Personal PINK ค้นหาวิธีป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมที่ใช่ในแบบคุณ” จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับพันธุกรรมและการรักษามะเร็ง ให้กับสาธารณชนในวงกว้างต่อไป และขอขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ตระหนักถึงความสำคัญและความรุนแรงของโรคมะเร็งเต้านม และให้ความร่วมมือกับศูนย์ฯ ในการรณรงค์สู้โรคมะเร็งเต้านมมาอย่างต่อเนื่อง”
ศ. นพ.มานพ พิทักษ์ภากร สาขาวิชาเวชพันธุศาสตร์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า “การตรวจพันธุกรรมหรือการตรวจยีน ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ไทยมากขึ้น ตั้งแต่การป้องกันโรค การตรวจคัดกรอง วินิจฉัย รวมไปถึงการรักษาในกลุ่มโรคที่หลากหลาย ซึ่งโรคมะเร็งถือเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนที่สำคัญคือ บีอาร์ซีเอ 1 (BRCA1) และ บีอาร์ซีเอ 2 (BRCA2) จากสถิติพบว่า ผู้ที่มียีนกลายพันธุ์ของยีนนี้ มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงถึง 80% ประโยชน์ของการตรวจยีนนี้คือ การตรวจพบได้เร็ว ก็จะช่วยวางแผนการรักษา คัดกรอง และป้องกันได้เร็วขึ้น เพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความรุนแรงของโรค ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีการตรวจหายีนอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น PI3K, PTEN, AKT หรือ ESR1 เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยเฉพาะราย สำหรับรูปแบบการรักษาในปัจจุบันมีอยู่หลากหลาย ทั้งการผ่าตัด การฉายแสง และการให้ยาซึ่งเป็นวิธีหลักในการรักษาผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพสูง และด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน หากตรวจพบเร็ว เป็นโรคระยะแรก การผ่าตัดก็จะเกิดเพียงแผลขนาดเล็ก ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ป่วยในการฟื้นตัว นอกจากนี้ ยังมีการใช้เคมีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด และยามุ่งเป้า ซึ่งการเลือกรูปแบบการรักษานี้จะอยู่ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาและการตัดสินใจร่วมกับผู้ป่วย”
ด้าน คุณโรมัน รามอส ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ Frontier Markets เปิดเผยว่า “แอสตร้าเซนเนก้า บริษัทผู้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมยาระดับโลก ตระหนักถึงความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมาตลอด 40 ปี โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมที่เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วย ครอบครัว และผู้เกี่ยวข้อง เราจึงได้มุ่งมั่นทำการศึกษาวิจัย พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยอย่างตรงจุดและช่วยลดความรุนแรงของโรคในอนาคต โดยได้ร่วมดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับศูนย์จีโนมิกส์
ศิริราช เพื่อส่งมอบองค์ความรู้ในการป้องกัน ร่วมพัฒนาวิธีการใหม่ในการวินิจฉัยมะเร็ง กระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองแต่เนิ่นๆ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ในปีนี้ยังต่อยอดความร่วมมือกับ เพอเซ็ปทรา สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ในการนำเทคโนโลยี AI มายกระดับการวินิจฉัยและอ่านผลภาพเอกซ์เรย์เต้านมได้แม่นยำขึ้นกว่า 94% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อส่งมอบสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย”
คุณเชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ตัวแทนผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพตนเอง กล่าวว่า “เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงรู้สึกไม่สะดวกใจ เขิน หรือทำตัวไม่ถูก ที่ต้องเริ่มตรวจเต้านม ซึ่งจากการศึกษาพบว่ายิ่งเราไปตรวจคัดกรองเต้านมเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที มีโอกาสหายสูงขึ้น เพราะมะเร็งเต้านมถือเป็นมะเร็งสุดฮิตที่ผู้หญิงไทยเป็นเยอะสุดและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี แถมยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตอีกด้วย อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญในการตรวจคัดกรองเป็นประจำ และเข้าสู่ระบบการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง มีประจำเดือนมาเร็วและหมดช้า ควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม หากเจออะไรผิดปกติกับตัวเอง ต้องรีบไปปรึกษาคุณหมอ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องอาย”








