"น่าจับตาบทบาทของ พรรคประชาชน ในการเมืองช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานแบบ คู่ขนาน อย่างเห็นได้ชัด พฤติกรรมที่เสมือน โอบอุ้ม หรือ ปล่อยผ่าน ต่อความผิดพลาดของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในขณะเดียวกันกลับรุมตรวจสอบบรรดาคนใกล้ชิดเชื่อมโยงถึง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ พรรคกล้าธรรม อย่างเข้มข้น ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ถึงกลยุทธ์ "แยกปลาแยกน้ำ" ของพรรค
ล่าสุดจุดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง หลัง ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. และแกนนำพรรคประชาชน ได้แสดงความชื่นชมต่อ “อนุทิน” ในฐานะผู้นำรัฐบาล หลังผลการประชุมเอเปคที่ระบุว่า อนุทิน ทำหน้าที่ในการประชุมเอเปคได้อย่าง สมบูรณ์แบบ และให้คะแนนว่า "ผ่าน" ในบทบาทนี้ ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตอย่างนุ่มนวล โดยเรียกร้องให้นายอนุทินควรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการ ปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้การทำหน้าที่ในภาพรวมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในทางกลับกัน พรรคประชาชนได้ใช้กลไกการตรวจสอบพุ่งเป้าไปที่ ร.อ. ธรรมนัส อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเครือข่าย การตรวจสอบขยายขอบเขตไปยังบุคคลที่เชื่อมโยงกับ ร.อ. ธรรมนัส เช่น กัน จอมพลัง ในประเด็นการรับบริจาคเงิน และ โควตาล็อตเตอรี่ ที่ขับเคลื่อนโดย รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน มีการติดตามและตั้งคำถามถึง ความโปร่งใส ในการจัดสรร โควต้าล็อตเตอรี่ ซึ่งเป็นประเด็นที่มักถูกหยิบยกมาตรวจสอบ ร.อ. ธรรมนัส บทบาทของ พรรคประชาชน ยังได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของกรรมการและบุคคลใกล้ชิดใน พรรคกล้าธรรม กับ เครือข่าย ทุนเทา และ แก๊งสแกมเมอร์ โดยมีการใช้สโลแกน "มีเราไม่มีเทา" เป็นแกนหลักในการตรวจสอบ
การที่พรรคประชาชนแสดงท่าทีแตกต่างกันอย่างชัดเจน หรือสองมาตรฐานนี้ เป็นกลยุทธ์ "แยกปลาแยกน้ำ" อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากจะเป็นการเลือกเป้าหมายทางการเมืองแล้ว ยังน่าสนใจว่า การไว้ไมตรีกับ “อนุทิน” มีเป้าหมายอื่นใด หรือเพื่อรักษาดีล!!
#แยกปลาแยกน้ำ #พรรคประชาชน #อนุทิน #ธรรมนัส #การเมืองไทย #ทุนเทา