ตชด.41 จับกำนันคนดังชุมพร พร้อมพวก คดีพาคนต่างด้าวข้ามแดนไทย–เมียนมา อ้างพาแรงงานร่วมทอดกฐิน เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 3 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 2 พ.ย.68 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พหล เกตุแก้ว ผบก.ตชด.ภาค 4, พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รอง ผบก.ตชด.ภาค 4. พ.ต.อ.จาริพัฒน์ ทองแดง ผกก.ตชด.41, พ.ต.ท.กุลนริศร์ นวมมณีรัตน์ รอง ผกก.ตชด.41, พ.ต.ท.นฤชาติ เวชโช ผบ. ร้อย ตชด.414
โดย ร.ต.ท.นพพนันท์ ศรีสุภะ หน.ชปข.ร้อย ตชด.414 ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 พร้อมด้วย ชปส.กก.ตชด.41 และร.ต.อ.ชัยยะ สิทธิจันทร์ หน.ชปส.กก.ตชด.41,พร้อมกำลัง ได้ร่วมจับกุมตัว นายสุนทร อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 23 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร (คนขับ) พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะสี่ประตู สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนสุราษฎร์ธานี จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งว่าต้องถูกจับกุมโดยกล่าวหาว่า 1.“ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่” 2.“ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่ง สั่งการตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้” 3.“เป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุมยานพาหนะ นำพาหนะเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่ ตามที่ประกาศกำหนด” (มาตรา ๒๓ พรบ.คนเข้าเมืองฯ) 4.“เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง และผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่” (มาตรา 62 พรบ.คนเข้าเมือง) 5. “ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วย ประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะ หรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้” (มาตรา 62 พรบ.คนเข้าเมือง) โดยเจ้าหน้าที่ ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 สามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ช่องหินดาษ(ชายแดนไทย-เมียนมา) หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่อยู่เวรยาม ประจำชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 ช่องหินดาษ (ชายแดนไทย-เมียนมา) หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัด ชุมพร ว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ย.68 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีรถกระบะ ทะเบียนสุราษฎร์ธานี วิ่งมาที่บริเวณ ไม้กั้นจุดตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งขณะนั้นมี ร.ต.ท.สุวรรณชัย ปริวัฒน์ รอง สว.(ป) กก.ตชด.41, ส.ต.ท.ภาณุพงศ์ ทาระการ และ ส.ต.ท.พงษ์นเรศ เรือนสังข์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ได้เข้าเวรประจำจุดตรวจไม้กั้นอยู่ จากนั้นคนขับรถคัน ดังกล่าวได้ลงมาจากรถ คือ นายสุนทร เป็นกำนันตำบลหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จดจำได้ดี นายสุนทร ได้ลงมา เพื่อจะขอออกไปนอกราชอาณาจักร พร้อมกับพวกอีก 2 คน แต่ ร.ต.ท.สุวรรณชัยฯ ได้แจ้งว่า “ผมไม่มีอำนาจให้ออกไปนอกราชอาณาจักรได้” นายสุนทร จึงได้เดินขึ้นไปบนฐาน ตชด. ที่อยู่ด้านบนเพื่อไปพบกับ ร.ต.อ.วัฒนา รัญจุล รอง สว.(ป) กก.ตชด.41 ซึ่งเป็น หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4102 จากนั้นเมื่อได้พบกับ ร.ต.อ.วัฒนาฯ แล้ว ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ ออกไปนอกราชอาณาจักรได้ นายสุนทร จึงได้พูดด่า ร.ต.อ.วัฒนาฯ ด้วยคำหยาบว่า “หัวดอ มีดาวก็ตายได้เหมือนกัน" “แน่จริงมึงปิดเลย ดาวมึงกับดาวกู ใครจะใหญ่กว่ากัน” แล้วนายสุนทร ได้เดินลงมายกไม้กั้นตรงแนวชายแดนออก และได้ขับรถออกไปนอกราชอาณาจักรเลยโดยไม่สนคำสั่งห้ามของเจ้าหน้าที่
ก่อนหน้าที่นายสุนทร จะขับรถมาถึงจุดตรวจไม้กั้นประมาณ 5 นาทีนั้น ได้มีนายเหมืองเพ็ชร์ (ทราบชื่อภายหลัง/ได้แยกบันทึกจับกุมไว้แล้ว) ขับรถกระบะ รั้วยกสูง ทะเบียนชุมพร มาจอดรอ นายสุนทร อยู่หลังไม้กั้นตรงแนวชายแดนประมาณ 50 เมตร เมื่อรถนายสุนทร มาถึง นายเหมืองเพ็ชร์ ได้ลงมาพาคนที่มากับรถ อีกคันซึ่งตามหลังรถนายสุนทร มา มีประมาณ 13 คน ขึ้นรถของนายเหมืองเพ็ชร์ เพื่อออกไปนอกราชอาณาจักร โดย ส่วนใหญ่ใส่เสื้อลายสีเดียวกันลักษณะเป็นเสื้อทีม เขียนว่า “บุญกฐิน 2568” ซึ่งนายเหมืองเพ็ชร์ และนายสุนทร ก็ใส่ เสื้อดังกล่าวเหมือนกัน ลักษณะเป็นการนัดแนะกันมาเพื่อจะออกไปนอกราชอาณาจักร ต่อจากนั้นนายเหมืองเพ็ชร์ ได้ขับรถยนต์ บรรทุกคนไปนอกราชอาณาจักร โดยมีนายสุนทร ขับรถตามไปติดๆ
ต่อมาในวันเดียวกัน (2 พ.ย.68) เวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีรถกระบะจำนวน 2 คัน ในลักษณะขับตามกัน มาจากฝั่งประเทศเมียนมา มาจอดบริเวณไม้กั้นจุดตรวจชายแดนที่ 4102 ช่องหินดาด (ชายแดนไทย-เมียนมา) หมู่ที่ 10 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ประจำอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งนายสุนทร เป็นคนขับรถกระบะคันแรก ทะเบียนสุราษฎร์ธานี (ของกลาง) มาจอดที่บริเวณไม้กั้นตรงแนวชายแดน จากนั้นนายสุนทร ก็ลงจากรถเพื่อจะเดินมาเปิดไม้กั้นตรงแนวชายแดนออก ระหว่างนั้น นายเหมืองเพ็ชร์ ได้ขับรถกระบะ ทะเบียนชุมพร มาจอดต่อท้ายรถกระบะ ที่นายสนุทร ขับนำมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ แสดงตัวเข้าตรวจสอบ ก่อนการตรวจสอบได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ถูกจับดูก่อนแล้ว จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า บน รถกระบะคันแรก มีนายสุนทร ผู้ถูกจับเป็นคนขับ และมีผู้โดยสารบนรถอีก 4 คน ซึ่งพบว่าเป็นคนไทยทั้งหมด (ซึ่งจนท.แยกบันทึกจับกุมแล้ว) ทั้งหมดได้เดินทางมาจากประเทศเมียนมาโดยไม่ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ประกาศกำหนด จากนั้นได้ทำการตรวจสอบรถกระบะ คันที่ 2 ซึ่งขับตามมา พบว่า มีนายเหมืองเพ็ชร์ เป็นคนขับ และมีคนต่างด้าวซึ่งไม่มีเอกสารประจำตัวอยู่บนรถทั้งสิ้น 36 คน โดยเป็นผู้ใหญ่ 15 คน เป็นผู้ติดตาม 21 คน (ได้แยก บันทึกจับกุมแล้วเช่นกัน)
จากการสอบถามนายเหมืองเพ็ชร์ ขณะจับกุม ให้การว่าเป็นลูกน้องของนายสุนทร ซึ่งได้นัดแนะกันเพื่อไปงานกฐินในฝั่งประเทศเมียนมา โดยจากการตรวจสอบภาพในโทรศัพท์ของนายเหมืองเพ็ชร์ พบภาพร่วมงานกฐินของนายสุนทร และนายเหมืองเพ็ชร์ จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ผู้ถูกจับให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวมาที่กองร้อยตำรวจตระเวน ชายแดนที่ 414 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม ควบคุมตัวส่ง สภ.ท่าแซะ เพื่อดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป
#ภูมิภาค-








