เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 พ.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า วันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าและถามว่าปปง. ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรบ้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในยุคที่เรื่องของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์เป็นเรื่องที่ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติก็จะต้องดำเนินการให้การสนับสนุนปปง. ที่จะทำการตรวจสอบยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ และดำเนินคดีผู้กระทำความผิดก็หารือกัน
เมื่อถามว่า ได้กำชับปปง.ในเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ให้เข้มข้นมากขึ้นหรือไม่ เพราะเราอาจจะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเฉพาะภายในประเทศ ถ้าเราไม่มีการสร้างความมั่นใจในเรื่องการปราบปรามผู้กระทำความผิด โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการฟอกเงิน ก็จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติต่อประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยและจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ซึ่งมีอยู่ทางเดียวปปง. ต้องดำเนินงานอย่างเต็มที่ไม่ให้มีเงินดำหรือเงินเทาเข้ามาอยู่ในระบบ การเงินของประเทศไทย
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะแล้วมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่าเรื่องรายละเอียดให้ถามเลขาธิการ ปปง.
เมื่อถามอีกว่า ข้อมูลที่ฝ่ายค้านพยายามเชื่อมโยงสแกมเมอร์ อยากให้นายกฯจัดการจะดูแลอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า นายกฯไม่ต้องจัดการ เรามี ปปง.จัดการ เรามีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)จัดการ ถ้าตรงไหนมีพฤติกรรมเรื่องฟอกเงิน มีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการและมีปปง.จัดการ เป็นหน้าที่ที่เขาต้องเร่งดำเนินการอยู่แล้ว และตอนนี้ได้หารือในที่ประชุมประธานปปง. ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยได้นำเสนอว่า จะเร่งทำบันทึกความร่วมมือ เพราะเป็นวาระแห่งชาติเอา 4 หน่วยงานหลัก คือ 1.ปปง. 2.กระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด 3.ตำรวจและ4.ดีเอสไอ มาทำข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน เพื่อปราบปรามเรื่องการฟอกเงินการใช้ระบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเรื่องสแกมเมอร์ก็จะลงไปในระดับปฏิบัติ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย
เมื่อถามอีกว่า ได้ตั้งกรอบเวลาในการแก้ปัญหาสแกมเมอร์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรารีบอยู่แล้ว ขณะนี้วงเงินอายัดไป 2 หมื่นกว่าล้านบาทแล้ว และทยอยยื่นฟ้อง ซึ่งบางครั้งเรื่องพวกนี้พูดไม่ได้ คนจึงนึกว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ของพวกนี้ต้องใช้การข่าว มันต้องไปสืบ ไปเจาะ และเมื่อมีหลักฐานครบถ้วนแล้วก็ดำเนินการ ไม่ใช่เฉพาะของ ปปง. โดยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) รายงานตนทุกวันว่าไปอายัดเงิน และอายัดทรัพย์ ผู้กระทำผิดเหล่านี้ รวมถึงเรื่องยาเสพติด บ่อนการพนัน ค้ามนุษย์ด้วย เขาดำเนินการอยู่ตลอด แต่ของพวกนี้มาพูดหมดก็เท่ากับเผยไต๋หมด ใช้วิธีอะไรไปจับไม่สามารถพูดได้ ตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลจะทำให้หน่วยงานเหล่านี้คือเราต้องมีวิธีการ มีเครื่องไม้เครื่องมือและมีเทคโนโลยี ที่เราต้องนำหน้าผู้กระทำความผิด ซึ่งผู้กระทำความผิดก็ไม่ใช่เบาเขาก็มีวิธีการของเขาเหมือนกัน แต่เราเป็นรัฐเราต้องเหนือกว่า และควบคุมทุกอย่าง
เมื่อถามว่า มีรายงานหรือไม่ว่าสแกมเมอร์เหล่านี้มาปักหลักในไทยเพิ่มมากขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดแล้วว่าอย่าไปสนใจฝั่งตรงข้ามที่อยู่นอกบ้านมากนักเลย ยังบอกเลขาธิการ ปปง. อยู่เลยว่าเดี๋ยวพาไปเดิน ถ้าไปเดินอยู่แถวไหน รับรองเห็นรังสีอำมหิตแน่นอน เราจะรู้ได้ทันทีว่ามันต้องมีอะไรที่มันไม่ถูกต้องให้ไปดำเนินการตรงนั้น ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานทั้งหลายเขากล้าหมด ตนก็ได้แต่บอกว่าต้องเร่งดำเนินการ เพราะเป็นที่สนใจของประชาชนและเราถูกกดดันจากประชาคมโลกด้วย ตนไปประชุมอาเซียน และประชุมเอเปคกลับมา ก็มีเรื่องเหล่านี้เป็นวาระสำคัญ
เมื่อถามต่อว่า ที่ทางปปง. ขอสนับสนุนเรื่องเอไอ มาช่วยเรื่องแก้ปัญหาอาชญากรรมรัฐบาลจะสนับสนุนอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ก็ให้นำเสนอขึ้นมา เรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วน เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ถ้านำเสนอขึ้นมาต้องใช้งบกลางก็ต้องใช้








