เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ระบุว่า โลกเร่งขยี้แก๊งสแกมฯ ส่วนไทยอ้อยอิ่ง นายกฯ อืดอาด
วาระโลกจับมือทำลายแก๊งสแกมฯ เครือข่ายหลอกลวง แต่ “อนุทิน” ยังอืดอาด บี้ถึงเวลาเอาจริงแล้ว คาดปัญหาไทย-กัมพูชา อีกนานจะกลับสู่สันติ ชี้ ปชช.บริจาคหวังช่วยสู้รบ ร่วมทำศึกกับกองทัพ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 31 ต.ค. 2568 กรณีปราบปรามสแกมเมอร์ว่า รัฐบาลและนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ต้องจริงจังกับการจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์ เพราะเรื่องนี้เป็นวาระของโลกที่ต้องการการทำลายล้างให้สิ้นซาก
อีกทั้งกล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐอยู่ระหว่างต่อรองใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์ปราบปรามสแกมเมอร์ นอกจากนี้ยังมีข่าวไม่ยืนยันว่า คนไทย 11 คนถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าสหรัฐ และยังมีบัญชีเฝ้าระวังอีก 12 คน ซึ่งเรื่องเป็นจริงหรือเท็จประการใด สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยควรชี้แจงให้กระจ่าง
"ข่าวที่ผมได้มานั้น ผมไม่ยืนยันจะเป็นความจริงหรือไม่ แต่จริงหรือเท็จอย่างไรสถานทูตควรแถลงให้เกิดความจ่าง ถ้าจริงควรระบุชื่อออกมาด้วย”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การปราบสแกมเมอร์เป็นวาระของโลกแล้ว ดังนั้น นายอนุทิน จึงต้องมีหน้าที่ปราบปรามให้เด็ดขาด โดยจะทำอย่างอื่นคงไม่ได้ ทั้งนี้ประเทศเมียนม่า (พม่า) กวาดล้างใหญ่ ทิ้งบอมบ์ทำลายแหล่งสแกมเมอร์ทุกจุด ซึ่งสะท้อนถึงการเอาจริงและจัดการเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ทำสงครามให้กองทัพว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกองทัพมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ เพราะความจริงนั้น กองทัพมีงบประมาณอยู่แล้ว แต่การบริจาคของประชาชนแสดงถึงจิตใจคนไทยที่ต้องการมีส่วนร่วมสู้กับการปกป้องอธิปไตยของชาติ ส่วนการใช้เงินจะสุจริตหรือไม่สุจริตก็ต้องตรวจสอบกัน
"กรณีนี้ไม่ได้หมายความว่า กองทัพมีงบประมาณแล้วจะรับบริจาคไม่ได้ แต่การบริจาคนั้น ประชาชนต้องการมีส่วนร่วมกับกองทัพเพื่อต่อสู้ในปัญหาชายแดน ซึ่งไม่แตกต่างจากการบริจาคให้พรรคการเมืองเช่นกัน ทั้งที่ กกต.ก็มีงบประมาณให้พรรคการเมืองอยู่แล้ว”
นายจตุพร กล่าวว่า การบริจาคเงินของประชาชนนั้น สะท้อนถึงการไม่เห็นแก่ตัว แต่ต้องการมีส่วนร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับกองทัพมีงบประมาณหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องแยกน้ำใจคนไทยออกจากการสุจริตหรือไม่สุจริตกับการใช้เงินบริจาค เพราะเรื่องนี้อยู่ที่ผู้นำเงินไปใช้ ซึ่งต้องถูกตรวจสอบ
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายจตุพร กล่าวว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และอดีต รมช.คลัง ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าคนใหม่ แต่หัวหน้าพรรคนี้เป็นเพียงหัวหน้าพรรคสมมุติ ไม่ใช่ของจริง หมายความว่า ไม่มีอำนาจเต็มในการจัดการพรรค และยังไม่เคยมีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนไหนได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย
กับกรณีคำร้องรัฐบาลฝ่าฝืน รธน. 60 ม.144 ข้อหาเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 3.5 หมื่นล้านของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 5 แห่งไปใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กลับพิจารณาให้เป็นความผิดตาม ม.157
นายจตุพร กล่าวว่า ปปช.ลากยาวคำร้องความผิด ม.144 มากว่า 6 เดือน แล้วยังเปลี่ยนคำร้องให้เป็นเพียงความผิด ม.157 ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทคนิค วิธีการของ ปปช. เพื่อหาทางลงให้กับฝ่ายการเมือง และไม่ใช่ประเด็นข้อกฎหมาย ดังนั้น กรณีนี้จะเป็นตราบาปอีกอย่างหนึ่งของ ปปช.
"บ้านเมืองเป็นเสียอย่างนี้ ถ้าคุณ (ปปช.) เห็นว่าเขาไม่ผิด ม.144 ก็ยกไป เก็บดองคำร้องไว้ทำไมกว่า 6 เดือน ทั้งที่ รธน.ให้พิจารณาโดยพลัน ไม่ได้ให้วินิจฉัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ศาล รธน.ต้องวินิจฉัยใน 15 วัน ดังนั้น เมื่อดึงไว้นานจึงเป็นของร้อนและมีปัญหา จนต้องใช้เทคนิคมาออกมุม ม.157 แต่ผู้ร้องได้ร้องข้อหา ม.144”
#จตุพรพรหมพันธุ์ #แก๊งสแกมเมอร์ #อนุทิน #อู่ตะเภา #ปปช #การเมือง #ประเทศไทยต้องมาก่อน








