วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานเกี่ยวกับกรณีปราสาทตาควาย ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งรัฐบาลได้มีการลงนามสันติภาพและลง MOU ในหลายครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะมีการลงนามความร่วมมือกันแต่กลับสร้างความวิตกให้กับชาวบ้านชายแดนที่อยู่ใกล้กับปราสาทตาควายเป็นอย่างมาก เนื่องจากจนถึงขณะนี้ปราสาทตาควายยังถูกทหารเขมรเข้าไปยึดครองไว้ตั้งแต่มีการสู่รบระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา และเป็นห่วงว่าในที่สุดแล้วจะตกไปเป็นของกัมพูชา ทั้งที่ปราสาทนั้นเป็นของไทยอยู่ในเขตไทย ซึ่งหากต้องเสียไปก็เป็นที่น่าเสียดายและเสียใจเป็นอย่างมาก
 
 
นายประจวบ เสงี่ยมทรัพย์  อดีตนายก อบต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้เล่าว่า เมื่อครั้งที่คนยังเป็นแค่รองนายก อบต.บักได นั้นได้เข้าไปสำรวจพบว่ามีเถาวัลย์ปกคลุมจนไม่เห็นตัวปราสาทเลย คนพื้นที่จึงเรียกว่าหนุมานพัดกาย หลังจากนั้นก็พากันไปบูรณะทำความสะอาดและปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี 2544 เรื่อยมา เพื่อให้คนไทยได้เข้าไปท่องเที่ยวได้ ต่อมาปี 54 ก็มีการสู้รบกันเกิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว หลังจากสู้รบกันเสร็จสิ้น ก็มีการตัดทำถนนขึ้นไป และจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวปราสาทตาควายเรื่อยมา ซึ่งชาวไทยสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้อย่างสบายใจ เพราะเป็นของเรา   จนถึงที่สุดหลังปะทะกันที่ผ่านมา ทหารเขมรกลับเข้ามายึดพื้นที่ในปราสาทตาควายไว้ เป็นที่น่าเสียใจเป็นอย่างมาก เราไม่สามารถเอามาคืนได้ ซึ่งชาวบ้านก็หวังว่าทหารจะปฏิบัติการรอบ 2 และนำกลับมาคืน แต่ก็ไม่เห็นดำเนินการอะไร ยังคงปล่อยให้เขมรเข้ามายึดตัวปราสาทอยู่ ทั้งๆที่ปราสาทตาควายนั้นเป็นดินแดนของไทยเรา น่าเสียดายจริงๆ ตอนนี้ก็แล้วแต่ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ว่าเขาจะเอาอย่างไรต่อ 
 
 
#ภูมิภาค-63








