วันที่ 31 ต.ค.68 เวลา 14.00 น.พลโทวีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะ เดินทางโดยเฮลิปคอปเตอร์ มาลงที่สนามจอดเฮลิปคอปเตอร์ หน้า สนง.ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ ไปยังประตูด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนจะข้ามแดนไปประชุม ที่ห้องประชุมอาคารหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ประจำจุดผ่านแดนถาวรช่องโอร์เสม็ด กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย  เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคกัมพูชา-ไทย (RBC) ด้านภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา กับกองทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย 
 
ก่อนที่แม่ทัพภาคที่ 2 จะร่วมลงนาม "บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 - ภูมิภาคทหารที่ 4 กับผู้บัญชาทหารภูมิภาคที่ 4  หลังจากไทย-กัมพูชา มีการประชุม RBC ตกลงที่จะดำเนินการถอนอาวุธ 3 เฟส คือ เฟส 1 Type A อาวุธทำลายล้างสูง,เฟส 2 ปืนใหญ่ 155 มม.ถอนออก ภายใน 3 สัปดาห์  และเฟส 3 ยานเกราะ- รถถัง ถอนภายใน 6 สัปดาห์ 
 
ตามการหารือแผนปฏิบัติการ (Action  Plan) ในการปรับกำลังและถอนอาวุธหนัก ตามมติการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่มาเลเซีย โดย กองทัพภาคที่ 2 ของไทยและ ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา เห็นชอบให้มีการลงนาม "บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 - ภูมิภาคทหารที่ 4 ดังกล่าว 
 
ก่อนที่เวลา 00.00 น.คืนนี้(1 พ.ย. 2568) จะเริ่มปรับกำลังตามลำดับของประเภทอาวุธที่มีการเสนอ จากนั้น ในวันที่ 15 พ.ย. 2568 จะมีการจัดการประชุมเพื่อทบทวนการปฏิบัติเฟส 1 เพื่อเตรียมการและแก้ไขปัญหาและ หารือในการปรับกำลังใน เฟส 2 และ เฟส 3 เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมีเวลา ในการวางแผนเข้าตรวจสอบ และ การเคลื่อนย้าย ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น 
โดยไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายทำข่าว ล่าสุดอยู่ระหว่างการประชุม ความคืบหน้า และรายละเอียดการประชุมผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป 
#ภูมิภาค-62








