เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศสั่งการให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) กลับมาเริ่มทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ทันที การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการรื้อฟื้นโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ทศวรรษ เพื่อตอบโต้โครงการพัฒนาแสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ของชาติคู่แข่งสำคัญอย่างรัสเซียและจีน
คำสั่งที่เข้มข้นนี้มีขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางไปพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ณ ประเทศเกาหลีใต้ ในวันนี้ (30 ต.ค.)
ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความอย่างชัดเจนผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social โดยระบุว่า "เนื่องจากประเทศอื่นมีโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ผมจึงสั่งการให้กระทรวงสงครามเริ่มทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเราบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเริ่มขึ้นทันที"
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงการจัดอันดับแสนยานุภาพของมหาอำนาจโลกว่า "รัสเซียอยู่อันดับสอง และจีนอยู่อันดับสามโดยตามมาห่าง ๆ แต่จะทัดเทียมกันได้ภายใน 5 ปี" เป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการตอบสนอง
ท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้เดินหน้าอวดแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพุธ (29 ต.ค.) ก็เพิ่งประกาศความสำเร็จในการทดสอบ "โพไซดอน" (Poseidon) ซูเปอร์ตอร์ปิโดพลังงานนิวเคลียร์ที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าสามารถสร้าง "สึนามิกัมมันตรังสี" เพื่อทำลายล้างแนวชายฝั่งของศัตรูได้ นอกจากนั้นยังมีการทดสอบขีปนาวุธร่อนรุ่นใหม่ "บูเรเวสต์นิก" (Burevestnik) และการซ้อมรบยิงนิวเคลียร์ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้
การทดสอบนิวเคลียร์ถือเป็นกระบวนการสำคัญในการเก็บข้อมูลทางเทคนิคเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของหัวรบรุ่นใหม่และตรวจสอบความพร้อมของอาวุธเก่าในคลังแสง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งสัญญาณท้าทายโดยตรงไปยังรัสเซียและจีน เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาโลก
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นชาติที่เปิดฉากยุคนิวเคลียร์ขึ้นในปี พ.ศ. 2488 และได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2535 การตัดสินใจของทรัมป์ในครั้งนี้จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านความมั่นคงครั้งสำคัญของสหรัฐฯ ในรอบ 33 ปีอย่างแท้จริง
#ทรัมป์ #ทดสอบนิวเคลียร์ #สหรัฐรัสเซีย #สงครามนิวเคลียร์ #ความมั่นคงโลก #เพนตากอน #รัสเซียจีน #อาวุธนิวเคลียร์ #บูเรเวสต์นิก #โพไซดอน








