“อัจฉริยะ” ปูด “นักการเมือง” ภาคใต้ “ช.” เอี่ยวเว็บพนัน ไล่บี้ “ยธ.” เดินหน้าสอบ
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม โดยเป็นการยื่นหลักฐานเส้นทางการเงินและหนังสือที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษนักการเมืองภาคใต้ชื่อดัง ฝั่งรัฐบาล อักษรย่อ “ช.ช้าง” ที่รับเงินเว็บพนันออนไลน์มูลค่านับร้อยล้านจากฝั่งประเทศกัมพูชา รวมทั้งจะเปิดเบื้องหลังตำรวจไซเบอร์ที่ให้การช่วยเหลือนักการเมือง “ช.ช้าง” และตำรวจ ศปอส.ตร. ที่เอาคดีนักการเมือง “ช.ช้าง” ไปซ่อนไว้
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการออกมาเปิดเผยรายชื่อ 7 นักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนัน ซึ่งวันนี้ตนเองขออาสาออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดและขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวกรณีที่มีการฟ้องร้องกัน
สำหรับนักการเมือง ช. นายอัจฉริยะ ยืนยันว่า ไม่ใช่ นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่เป็น สส. ในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งเส้นทางการเงินชี้ชัดและไม่สามารถโกหกใครได้ ตามแผนผังจะเห็นได้ว่านักการเมือง ช. มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเส้นเงินจะไหลเข้าไปยังนักการเมือง ช. และลูกชายนักการเมืองที่เคยมีคดีความ
นอกจากนี้ยังมีเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในภาคใต้และนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศที่อยู่ภาคใต้ ซึ่งเส้นเงินจะมีทั้งยาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์เข้ามายังนักการเมือง 2 ท่านของพรรคชื่อดังและนักการเมือง ช. ตนจึงมองว่าแบบนี้แล้วจะยังมีความเหมาะสมที่จะเป็น สส. และกรรมาธิการตำรวจต่ออีกหรือไม่
นายอัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้นักการเมือง ช. ถูกชุด PCT 4 ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ทำการออกหมายจับนักการเมือง ช. ในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ แต่หลุดคดีที่ จ.สงขลา เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กลับคำให้การในชั้นสอบสวน
จากนั้นนายอัจฉริยะ โชว์แผนผังการรับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันและบุคคลที่เคยถูกจับกุมในคดีเว็บพนัน และคดีของดีเอสไอ ซึ่งมีการโอนเงินไปยังนักการเมือง ช. กว่า 72 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังดีเอสไอซึ่งในปี 67 ดีเอสไอได้ส่งหนังสือคดีดังกล่าวไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แต่กลับนำคดีไปซ่อนไว้และยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆกับนักการเมือง ช. ในข้อหาร่วมกันสมคบฟอกเงินทั้งที่มีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจน
“ไม่กลัวจะถูก นักการเมือง ช. ฟ้องร้องดำเนินคดี รวมถึงการมาร้องที่กระทรวงยุติธรรมในวันนี้ตนเองก็ไม่ได้ร้องขอทีมคุ้มครองพยานแต่อย่างใดเพราะตนเองไม่เคยกลัวตายและพร้อมท้าชนทั่วประเทศยิ่งขู่ยิ่งเปิดเผยมากขึ้น”
นายอัจฉริยะระบุว่าเปิดไปแล้ว 2 คนจาก 7 คน คือ นักการเมือง ช. และ สส.ผู้ใหญ่ที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ซึ่งยังเหลือนักการเมืองอีก 5 คน ขณะนี้ต้องรอคำสั่งว่าจะให้เปิดเพิ่มเติมหรือไม่







