รถไฟฟ้าทำประกันชั้นไหนได้บ้าง คู่มือเลือกประกันที่ใช่สำหรับคุณ
กระแสความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทยยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและช่วยประหยัดค่าพลังงาน ทำให้หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น และหลังจากรับรถไฟฟ้าคันใหม่มาแล้ว สิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ที่เจ้าของรถต้องจัดการก็คือเรื่องประกันภัยรถยนต์ เพื่อสร้างความอุ่นใจในการขับขี่ ซึ่งหลายคนมักจะนึกถึงประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าเป็นอันดับแรก แต่จริง ๆ แล้วรถ EV สามารถทำประกันได้หลากหลายประเภท บทความนี้จะมาเป็นคู่มือสำหรับมือใหม่สาย EV ทุกคน
รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำประกันแบบไหนได้บ้าง
ข่าวดีคือรถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำประกันภัยภาคสมัครใจได้เหมือนกับรถยนต์สันดาปทั่วไป โดยแบ่งเป็นประเภทหลักๆ ที่มีความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ดูแลทั้งรถเราและรถคู่กรณีในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบมีหรือไม่มีคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ ที่สำคัญสำหรับรถ EV คือให้ความคุ้มครองชิ้นส่วนที่มีราคาสูงอย่างแบตเตอรี่ด้วย
- ประกันชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่ประหยัดลงมา ให้ความคุ้มครองรถคู่กรณี รถหาย และไฟไหม้ แต่จะคุ้มครอง "รถเรา" เฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถและสามารถระบุคู่กรณีได้เท่านั้น
- ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 2+ คือดูแลรถคู่กรณี รวมถึงกรณีรถเราสูญหายและไฟไหม้ แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเราจากอุบัติเหตุการชนทุกกรณี
- ประกันชั้น 3+ คุ้มครองคล้ายกับชั้น 2+ คือดูแลรถเราและรถคู่กรณีเฉพาะอุบัติเหตุแบบรถชนรถ แต่จะไม่คุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้
- ประกันชั้น 3 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองพื้นฐานที่สุด โดยจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของ "คู่กรณีเท่านั้น" ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเราเลย
รถยนต์ไฟฟ้าควรทำประกันชั้นไหนดี
การจะเลือกว่าประกันชั้นไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับรถ EV ของคุณนั้นไม่มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน โดยสามารถใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้เพื่อพิจารณาได้
ความเสี่ยงในการใช้งานและพฤติกรรมการขับขี่
ลักษณะการใช้งานรถเป็นปัจจัยแรกที่ต้องคำนึงถึง หากคุณเป็นมือใหม่หัดขับ หรือต้องใช้รถเดินทางทุกวันในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุย่อมสูงกว่า การเลือกประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณีจึงเป็นทางเลือกที่อุ่นใจกว่า ในทางกลับกัน หากคุณเป็นผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สูง ใช้รถน้อย ส่วนใหญ่ขับแค่ช่วงวันหยุด ความเสี่ยงต่ำ การเลือกประกันชั้น 2+ ก็อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเพียงพอ
อายุและมูลค่าของรถยนต์
โดยทั่วไปแล้ว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงที่มีมูลค่าสูง การทำประกันชั้น 1 ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะค่าซ่อมแซมและราคาอะไหล่ โดยเฉพาะแบตเตอรี่นั้นสูงมาก หากเกิดความเสียหายขึ้นมาอาจกระทบกับเงินเก็บของคุณได้ แต่เมื่อรถมีอายุมากขึ้น มูลค่าลดลง การลดระดับความคุ้มครองมาเป็นประกันชั้น 2+ หรือ 2 เพื่อให้ค่าเบี้ยสอดคล้องกับมูลค่ารถก็เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล
งบประมาณสำหรับค่าเบี้ยประกัน
ค่าเบี้ยประกันเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา แน่นอนว่าประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองดีที่สุดแต่ก็มีค่าเบี้ยสูงที่สุดเช่นกัน คุณต้องประเมินว่าสามารถจ่ายค่าเบี้ยรายปีในระดับไหนได้โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่น เป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างความคุ้มครองที่อยากได้กับภาระค่าใช้จ่ายที่ยอมรับได้ หากมีงบจำกัดจริง ๆ ประกันชั้น 2+ ก็ยังให้ความคุ้มครองที่จำเป็นเกือบครบถ้วนในราคาที่ย่อมเยากว่า
ความคุ้มครองพิเศษสำหรับรถ EV
ปัจจุบันบริษัทประกันหลายแห่งเริ่มออกกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ นอกเหนือจากความคุ้มครองพื้นฐานแล้ว ควรมองหาความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากอุบัติเหตุ ความคุ้มครองเครื่องชาร์จที่บ้าน (Wall Charger) และสายชาร์จ หรือความรับผิดต่อบุคคลภายนอกจากสถานีชาร์จ การเลือกแผนประกันที่มีความคุ้มครองเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งานรถ EV ได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้า แพงกว่ารถสันดาปจริงไหม ลดค่าเบี้ยยังไงดี
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ามักจะสูงกว่ารถยนต์สันดาปในทุนประกันที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนค่าซ่อมและอะไหล่ที่สูงกว่า โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่เป็นหัวใจหลักของรถซึ่งมีราคาสูงมาก นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ซับซ้อนยังต้องการช่างผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ทำให้ค่าแรงในการซ่อมสูงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดค่าเบี้ยประกันลงได้ด้วยวิธีเหล่านี้
- เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัท แต่ละบริษัทประกันภัยมีเกณฑ์การคำนวณเบี้ยที่แตกต่างกัน ควรเปรียบเทียบเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด
- เลือกรับค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) การยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยให้คุณจ่ายค่าเบี้ยประกันรายปีถูกลงได้
- รักษาประวัติการขับขี่ที่ดี หากไม่มีการเคลมเลยตลอดทั้งปี คุณจะได้รับส่วนลดประวัติดีในการต่อประกันปีถัดไป
- ติดตั้งกล้องติดหน้ารถ หลายบริษัทมอบส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้อง
สรุปบทความ
รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำประกันได้ทุกประเภทเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่ด้วยมูลค่าและค่าซ่อมที่สูง ประกันชั้น 1 จึงเป็นตัวเลือกที่แนะนำมากที่สุดสำหรับรถใหม่ เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมและสบายใจที่สุด อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานและงบประมาณของตนเองเป็นสำคัญ และอย่าลืมเปรียบเทียบข้อเสนอก่อนตัดสินใจเสมอ








