วันที่ 28 ต.ค.2568 เวลา 14.20 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ เปิดตัวนายประสิทธิ์ชัย พงษ์สุวรรณศิริ ว่าที่ผู้สมัครสส.ยะลา เขต1 พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นน้องชายนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ อดีตสส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ 6 สมัย
โดยนายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตน และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชักชวนชวนนายประสิทธิ์ชัย ให้เข้ามาร่วมงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย โดยจะลงสมัครสส.ยะลา เขต1 ส่วนอีก2เขต จะหารือกันอีกครั้ง เพื่อเชิญชวนคนที่มีอุดมการณ์มาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ขับเคลื่อนการเมืองในจังหวัดยะลา
ขณะที่จังหวัดปัตตานี รวมถึงนราธิวาส เรามีผู้สมัครแล้วบางส่วน แต่หลังจากนี้จะมีการเปิดตัวผู้สมัครในจ.ปัตตานีเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันตอนนี้ยังไม่มีการยุบสภา การที่เราจะเปิดตัวผู้ที่ต้องการร่วมงานกับเรา แต่ยังสังกัดพรรคอื่นอยู่ ก็ยังเป็นเรื่องที่ติดขัด ดังนั้นผู้สมัครสส. โดยเฉพาะใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงยังไม่ได้มีการเปิดตัวมากมาย
เมื่อถามว่าในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นฐานเสียงส่วนใหญ่ของพรรคประชาชาติ ทางพรรคภูมิใจไทยจะมีกลยุทธ์อย่างไรในการเข้าไปดำเนินการ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเคยส่งผู้สมัครในพื้นที่ดังกล่าว และได้คะแนนมา แต่จ.ยะลาเรายังไม่เคยได้สส. ส่วนจ.ปัตตานี และยะลาเรามีสส.ของพรรคอยู่ ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี2569 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มอบหมายให้ตน สรรหาผู้สมัครในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเพิ่มเติม เพื่อผนึกกำลังปักธงให้ได้สส.เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี62 เรามีสส.ปัตตานี1คน ในปี66 มีสส.นราธิวาสอีก1คน แต่ในการเลือกตั้งปี69 เรามั่นใจว่าจะมีสส.ทั้ง3จังหวัด
เมื่อถามว่าที่เราเคยตั้งเป้าที่จะได้สส.30 ที่นั่งในพื้นที่ภาคใต้ แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว จะกระทบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เป้าหมายยังไม่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้เรามั่นใจว่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า30ที่นั่งในภาคใต้ ขณะนี้กระแสความนิยมของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่พรรคคู่แข่งของเรา บางพรรคมีการเปลี่ยนแปลง บางพรรคยังไม่แน่นอน ยังอยู่หรือไม่ จะมีอยู่หรือไม่ รวมถึงมีพรรคใหม่ๆเกิดขึ้น การแข่งขันทางการเมืองคงต้องมีต่อไป ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่ไม่มีคู่แข่งทางการเมือง แต่ละเขตมีคู่แข่งไม่น้อยกว่า4-5พรรค
เมื่อถามว่าเบื้องต้นกรอบการยุบสภาจะยังเป็นภายใน4เดือนหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่รอให้นายกฯกลับมาจากการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศมาเลเซีย และจะเดินทางไปประชุมเอเปคต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ คาดว่าจะกลับมาถึงในวันที่1พ.ย.นี้ ขอให้สื่อถามนายกฯดีกว่า เพราะนายกฯมีอำนาจเพียงผู้เดียวในการที่จะประกาศว่ายุบสภาหรือไม่








