วันที่ 27 ต.ค.68 ภายหลังสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต ปวงชนชาวไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะพสกนิกรในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี น้อมรำลึกถึงพระราชปณิธานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาผ้าไหมไทย อันทรงมีพระราชดำริให้เป็นมรดกภูมิปัญญาแห่งชาติ โดยที่ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก ม.18 ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มช่างทอผ้าในพื้นที่ยังคงยึดมั่นในแนวทางตามพระราชดำริ โดยร่วมกันอนุรักษ์ ลวดลาย เทคนิค และภูมิปัญญาการทอผ้าไหมโบราณ พร้อมทั้งพัฒนาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานให้ผ้าไหมไทยคงอยู่คู่แผ่นดิน ทั้งนี้ศูนย์การเรียนรู้ฯ แห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทอผ้าแก่เยาวชนและประชาชนในชุมชน เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าของผ้าไทย และเป็นศูนย์กลางาแห่งแรงบันดาลใจในการสืบสานแนวพระราชดำริของสมเด็จพระพันปีหลวง ให้ดำรงอยู่ตราบนานเท่านาน
นายอภิชาติ พลบัวไข ผู้ใหญ่บ้านโนนกอก และประธานศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้กล่าวแสดงความมุ่งมั่นว่า “เมื่อครั้งเป็นเด็ก ทุกเช้าผมจะเดินไปโรงเรียน ผ่านบ้านชาวบ้านที่ต่างนั่งทอผ้าใต้ถุนบ้านกันแทบทุกหลังคาเรือน ภาพนั้นฝังใจ และเมื่อได้ชมข่าวพระราชสำนัก เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงทรงงานด้านศิลปาชีพ ผมจึงตั้งใจว่า วันหนึ่งอยากจะตั้งกลุ่มทอผ้าแบบพระองค์ท่าน เพื่อให้คนในชุมชนมีอาชีพ มีรายได้ และได้อนุรักษ์ภูมิปัญญาผ้าทอของเราไว้”
ปัจจุบันกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกได้สืบสานการทอผ้าแบบโบราณ ใช้กี่ไม้ในทุกขั้นตอน และย้อมสีด้วยวัสดุธรรมชาติจาก “ดอกบัวแดง” ตามแนวทางการพัฒนาโดยพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ที่ทรงเสด็จเยี่ยมและสานต่อแนวพระราชดำริในพื้นที่ ผ้าทอของกลุ่มมีเอกลักษณ์คือ “ลายอนุรักษ์หมอนขิด” ซึ่งสมเด็จพระพันปีหลวงเคยมีพระราชดำริให้จังหวัดอุดรธานีอนุรักษ์ลวดลายขิดดั้งเดิม และนำมาประยุกต์เป็นลายมัดหมี่ ผ้าทอของที่นี่จึงคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์พื้นถิ่นอุดรธานีมากถึงร้อยละ 90 อีกส่วนเป็นลายที่คิดสร้างสรรค์ขึ้นใหม่
หลังจากสมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ช่างทอในพื้นที่ต่างร่วมใจกันทอ ผ้าสีดำ เพื่อถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน ปรากฏว่าผ้าสีดำซึ่งย้อมจาก “ดอกบัวแดง” ตามโครงการพระราชดำริของเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วประเทศอย่างล้นหลาม ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจนแตะหลักล้านบาทภายในเวลาไม่กี่วัน
นายอภิชาต กล่าวต่อว่า วันนี้เราพร้อมใจกันสวมใส่ผ้าไทยสีดำเพื่อถวายความอาลัยแด่พระแม่ของไหมไทย พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจสูงสุดของเราทุกคน แม้พระองค์จะเสด็จสวรรคต แต่พระมหากรุณาธิคุณยังคงสถิตอยู่ในใจของพวกเราเสมอ
ปัจจุบันกลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอกมีช่างทอกว่า 300 คนทั่วจังหวัดอุดรธานี ยังคงยึดมั่นในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย ถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษา โดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ใด ๆ เพื่อสืบสานแนวพระราชดำริให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
“แม้ปัจจุบันจะมีโรงงานผลิตผ้าออกมาตีตลาดมากขึ้น แต่ในฐานะผู้ประกอบการ เราไม่รู้สึกกังวลเลยครับ เพราะยังมีลูกค้าจำนวนมากที่รักและชื่นชอบผ้าทอแท้ ๆ จากมือช่าง คนที่ชอบผ้าทอก็จะมีตลาดของเขา ส่วนคนที่ชอบผ้าโรงงานก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง หลังจากสมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จสวรรคต ประชาชนยิ่งหันกลับมาให้ความสนใจผ้าทอมากขึ้น ถือเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน พูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกน้ำตาจะไหลครับ” ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนกอกกล่าวตอนท้าย
#ภูมิภาค-66








