"ภาษาไทมีต้นตอรากเหง้าจากตระกูลภาษาไท-กะได (ไท-ไต) บริเวณรอยต่อระหว่างภาคใต้ของจีนที่มณฑลกวางสี (จ้วง) กับภาคเหนือของเวียดนาม (ผู้ไท) ราว 3,000 ปีมาแล้ว ภาษาไทมีอำนาจและอิทธิพลแผ่ไปกว้างขวางตามเส้นทางการค้าภายในภาคพื้นทวีป หนุนด้วยพลังการค้านานาชาติที่เข้าทางอ่าวไทยและอันดามัน ในที่สุดภาษาไท-ไตเติบโตเป็นภาษาไทย เป็นภาษากลางทางการค้าและเป็นภาษาราชการของอาณาจักรในภายหลัง อักขรวิธีภาษาไทยง่ายต่อการสื่อสาร จึงถูกใช้เป็นภาษากลางทางการค้าของคนที่อยู่ดินแดนภายในแถบ “โซเมีย” ทางตอนใต้ของจีน ทำให้ภาษาไทยเคลื่อนไหวไปบนเส้นทางการค้าสู่ลุ่มน้ำโขง, สาละวิน, และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สำเนียงภาษาไทยจากลุ่มน้ำโขงเมื่อผสมกับภาษามอญ-เขมร ก็กลายเป็นสำเนียงลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลักษณะปัจจุบันที่เรียก “เหน่อ” เช่น สำเนียงโคราชและสุพรรณ ภาษาไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยาจึงเป็นลูกผสมของภาษามอญ, เขมร, มลายู และลาว เนื่องจากมีถิ่นฐานบ้านเรือนปะปนกัน เช่น คำว่า ทองคำ (ทอง: มอญ, เขมร / คำ: ลาว) สะท้อนให้เห็นว่า ภาษาไทยคือผลลัพธ์ของการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่ซับซ้อน"ที่มา เพจเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต
#ภาษาไทย #รากเหง้าภาษา #โซเมีย #ภาษากลางทางการค้า #ประวัติศาสตร์ไทย








