ชาวบ้านแนวชายแดนที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะครอบครัวทหารพลีชีพกับเหตุปะทะ ยังไม่มั่นใจว่าประเทศกัมพูชา จะทำตาม”ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์”ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่มีประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน
วันที่ 27 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมยป์ แห่งสหรัฐอเมริกาและนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามที่เรียกว่า”ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์”ที่เขาระบุว่าเป็น”ข้อตกลงประวัติศาสตร์”ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น การลงนามดังกล่าวถึงแม้จะมีผู้นำจากประเทศมหาอำนาจอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา มาเป็นลงนามร่วมก็ตาม แต่ความรู้สึกของประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะครอบครัวที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัว จากการปะทะเมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครเชื่อมั่นว่าฝั่งประเทศกัมพูชาจะทำตามหรือไม่เพราะที่ผ่านมาไม่ผิดข้อตกลงทุกครั้ง
นางแต้ว รถน้ำ อายุ 48 ปี ชาวบ้าน บ้านยาง ต.ตาจง อ.ละหานทรายจ.บุรีรัมย์ เห็นข่าวแล้วก็เป็นภาพเดิมๆเหมือนที่เคยมีข้อตกลงกันส่วนตัวไม่มั่นใจและไม่ไว้ใจเขมร ว่าจะทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ทั้งตกลงหยุดยิงหรือการกู้ระเบิด เขมรก็ไม่เคยทำตามสัญญา ยอมรับไม่เชื่อใจไม่อยากให้เปิดด่าน ไม่อยากให้ทำสัญญาทุกอย่างกับเขมร
นายอินแก้วกลม อายุ 59 ปี ชาวบ้าน บ้านยาง ต.ตาจงอ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ บอกว่าตนไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขมรจะทำได้ที่ผ่านมาเขาทำทุกอย่างเพื่อเอาดีใส่ตัวทั้งการสร้างสถานการณ์เองแล้วมาโทษว่าคนไทยเป็นคนทำเช่นเดียวกับด่านควรจะปิดถาวรไปเลย
ขณะที่นายธรรมรงค์ศักด์ กระจ่างทอง อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พี่ชาย พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทองที่เสียชีวิตจากการปะทะ บอกว่าไว้ใจเขมรไม่ได้หรอกฟโดยเฉพาะการหยุดยิงไม่เชื่อว่าฝั่งกัมพูชา จะหยุดได้เพราะเขาพยายามก่อกวนอยู่ตลอดเวลา
#ภูมิภาค-55








