วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ทำการปรับเปลี่ยนจุดรับประชาชนหลักและระบบการบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
การปรับเปลี่ยนที่สำคัญคือ การย้ายจุดรับประชาชนและจุดคัดกรองหลักจากฝั่งเดิม (ใกล้ศาลฎีกา) มายังฝั่งตรงข้าม ซึ่งติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นหลัก ถึงแม้ว่าอีกฝั่งหนึ่งจะไม่ได้ปิด แต่ประชาชนจะต้องเดินอ้อมเพื่อเข้ามายังจุดคัดกรองที่ฝั่งธรรมศาสตร์แทน การเปลี่ยนแปลงจุดเข้า-ออกครั้งนี้มีเหตุผลหลักมาจากเรื่องการลำเลียงอาหาร เนื่องจากโรงครัวพระราชทานตั้งอยู่ทางฝั่งธรรมศาสตร์ การย้ายจุดมาอยู่ฝั่งนี้จึงทำให้การลำเลียงอาหารเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง ขสมก. ได้มีการจัดเส้นทางเดินรถเมล์ใหม่ โดยรถเมล์สามารถวิ่งผ่ากลางสนามหลวงได้ รถเมล์จะวิ่งเข้ามาทางธรรมศาสตร์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายตัดเข้ามาเพื่อจอดส่งคนที่จุดรับประชาชนได้เลย ซึ่งเป็นการเดินรถแบบ Shuttle Bus ทำให้ประชาชนเดินทางน้อยลงและสะดวกขึ้น
นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังมีเต็นท์อำนวยความสะดวกจัดวางอยู่ฝั่งธรรมศาสตร์ตามแนวติดถนน และมีรถโมบายสีเหลืองของ กทม. เตรียมพร้อมไว้สำหรับเป็นศูนย์อำนวยการสนามหลวง ซึ่งมีนายไทวุฒิ ขันแก้ว และนายจิระเดช กรุณกฤตกุล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ พร้อมด้วยสำนักพัฒนาสังคมจะทำหน้าที่ดูแลเรื่องการรับบริจาคและการจัดการอาหาร
สำหรับขั้นตอนการเข้าพื้นที่ เมื่อประชาชนผ่านจุดคัดกรองและเดินผ่านวอล์กทรูมาแล้ว จะสามารถรับข้าวจากจุดแจกที่อยู่หลังวอล์กทรู ประชาชนสามารถนั่งรับประทานอาหารได้ เนื่องจากมีการจัดเตรียมเก้าอี้รองรับไว้กว่า 2,000 ตัว หลังจากนั้นสามารถเดินต่อไปเข้าอุโมงค์ ซึ่งภายในอุโมงค์มีเก้าอี้ให้ประชาชนนั่งรอรับประมาณ 800 ตัว ก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อนเพื่อเข้าสู่พระบรมมหาราชวังเพื่อไปถวายสักการะพระบรมศพ
ในส่วนของการบริหารจัดการด้านเวลา ตามประกาศของสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 โดยให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน เวลา 08.30 น.-16.00 น. เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม 2568 ในการนี้ได้จัดสมุดหลวงลงนามถวายความอาลัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
และให้ประชาชนได้เข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายหลังจากการพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน ทุกวัน เวลา 09.00 น.-21.00 น. เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน 2568 รวมถึง ให้ราชสกุล คณะองคมนตรี คณะรัฐบาล คณะบุคคล ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 100 วัน
ด้านสถิติการเข้าพื้นที่ในวันที่ผ่านมา มีรายงานว่าจำนวนคนเข้าจุดคัดกรองมีมากกว่า 2,500 คน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างการรออัปเดตตัวเลขล่าสุดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการอัปเดตรายละเอียดด้านสุขา, รถน้ำ, และไฟส่องสว่างในพื้นที่ด้วย








