ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในวันนี้ (27 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทำ สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในวันศุกร์ (24 ต.ค.) ซึ่งตลาดขานรับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาดอย่างชัดเจน ปัจจัยนี้ได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 49,905.80 จุด เพิ่มขึ้น 606.15 จุด หรือคิดเป็น +1.23%
หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาที ดัชนีนิกเกอิได้ทะยานขึ้นไปถึง 948.64 จุด หรือ +1.92% แตะที่ระดับ 50,248.29 จุด ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้น เหนือระดับ 50,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของดัชนีหลักทรัพย์ญี่ปุ่น
ดัชนี ดาวโจนส์ รวมถึงดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นเพียง 3.0% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.1% โดยเป็นระดับที่ลดลงจาก 2.9% ในเดือนสิงหาคม
ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง ก็ปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายปี ซึ่งยังคงต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% และลดลงจากระดับ 3.1% ในเดือนสิงหาคมเช่นกัน
ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงดังกล่าว FedWatch Tool ของ CME Group ได้บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักสูงถึง 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ และยังให้น้ำหนักที่สูงถึง 98.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธันวาคม
#นิกเกอิ #ตลาดหุ้นโตเกียว #หุ้นญี่ปุ่น #ดาวโจนส์นิวไฮ #เฟดลดดอกเบี้ย #เงินเฟ้อสหรัฐ #Nikkei50000








