สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นองค์อัครอภิรักษศิลปิน (The Great Patron of Arts) ผู้ทรงมีพระปรีชาญาณเฉียบคมในการผสมผสาน "มรดก" และ "สมัยนิยม" ได้อย่างลงตัวที่สุดในโลกแห่งแฟชั่น
พระองค์ทรงมีพระราชดำริอันลึกซึ้งว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีเครื่องแต่งกายประจำชาติสำหรับสตรีที่สะท้อนถึงอารยธรรมอันรุ่งเรืองและสง่างามทัดเทียมนานาประเทศ การแต่งกายไม่ได้เป็นเพียงแค่เสื้อผ้า แต่คือ สัญลักษณ์ และ การทูตทางวัฒนธรรม
พระองค์ทรงมิได้ทรงสร้างสรรค์ชุดขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่ทรงใช้หลักการ "ฟื้นฟูและประยุกต์" โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้ศึกษาแบบแผนการแต่งกายของสตรีไทยโบราณ แล้วนำมาปรับปรุงโครงสร้าง และเทคนิคการตัดเย็บ ให้สอดรับกับสรีระและบริบทสังคมสมัยใหม่ จนเกิดเป็น "ชุดไทยพระราชนิยม" ที่มีความหลากหลายตามวาระโอกาส ทั้ง ๘ แบบ ซึ่งตั้งชื่อตามพระที่นั่งอันศักดิ์สิทธิ์:
ไทยเรือนต้น ชุดที่เน้นความสบาย เรียบง่าย งดงามตามแบบฉบับชีวิตประจำวัน
ไทยจิตรลดา ไทยอมรินทร์ ชุดพิธีการกลางวัน เน้นความสุภาพและสง่างาม
ไทยบรมพิมาน ชุดราตรีเต็มยศที่ใช้ผ้าไหมทอมืออันประณีต สวมใส่ในงานเลี้ยงทางการ
ไทยจักรี: ชุดอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยผ้าสไบเฉียงที่สง่าผ่าเผย พร้อมการประดับเครื่องทรงอันวิจิตร
ไทยดุสิต ไทยศิวาลัย ไทยจักรพรรดิ์: ชุดราตรีชั้นสูงสุดที่แสดงถึงความหรูหราอลังการตามราชประเพณีและธรรมเนียมการทูต
"ชุดไทยพระราชนิยม" ได้รับการยกย่องในเวทีโลก ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงาม แต่เพราะเป็นชุดที่ "ทรงภูมิปัญญา" คือการนำผ้าไหมไทยซึ่งเป็นหัตถศิลป์พื้นบ้านขึ้นสู่เวทีแฟชั่นชั้นสูง ทำให้เกิดการฟื้นฟูอาชีพทอผ้าไหม มัดหมี่ และงานปักอันประณีตของช่างฝีมือไทยทั่วประเทศ ชุดเหล่านี้จึงเป็นมากกว่าอาภรณ์ แต่คือ การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ที่ยั่งยืน
พระราชกรณียกิจในครั้งนี้ จึงเป็นการทรงวางรากฐานอันมั่นคงให้แก่สตรีไทยได้มีเครื่องแต่งกายที่เป็นสากลแต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งความเป็นไทย เป็นมรดกทางแฟชั่นที่ไม่มีวันตกยุค และเป็นเครื่องยืนยันในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงเป็นผู้นำด้านศิลปะวัฒนธรรมของชาติอย่างแท้จริง
ขอน้อมก้มเกล้าฯ สดุดีในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
#ชุดไทยพระราชนิยม #สมเด็จพระพันปีหลวง #ผ้าไหมไทย #SoftPowerไทย #มรดกแฟชั่น #ThaiNationalCostume #องค์อัครอภิรักษศิลปิน








