วันที่ 23 ต.ค. 68 นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมสำนักโฆษกจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร (Press Tour) พร้อมนำสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และออนไลน์ กว่า 50 คนลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 23-24 ต.ค. โดยเมื่อเดินทางถึงบริเวณองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ได้รับการต้อนรับจากนางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดยนางสาวศศิธร ได้นำสื่อมวลชนสักการะองค์พ่อปู่ภุชงค์นาคราช ก่อนสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จากนั้นรับฟังการบรรยายประวัติพิพิธภัณฑ์เรือหลวงลันตา แลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวแห่งใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล

จากนั้นสื่อมวลชนรับฟังบรรยายการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 ที่พอร์ตตะโกลา ก่อนที่นางสาวศศิธร จะนำสื่อมวลชนร่วมพิธีบวงสรวงองค์พระพิฆเนศ
นางสาวอัยรินทร์ ยังได้นำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 1 ซึ่งเคยเป็นบ้านพักอาศัยของพระยาคงคาธราธิบดี อดีตผู้ว่าราชการเมืองกระบี่ คนที่ 6 ที่ได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ (Creativity Tourism) เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีจังหวัดกระบี่ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ “OTOP Krabi ดี เด่น ดัง” ซึ่งมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 20 กลุ่ม จากทั่วจังหวัดกระบี่พร้อมกิจกรรม Workshop การทำผลิตภัณฑ์ OTOP Krabi ส่งเสริมการเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

“จังหวัดกระบี่อยู่ในกลุ่มเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว ควรเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การตลาด และการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และก่อให้เกิดรายได้เข้าสู่ชุมชนอย่างมั่นคง ชุมชนมีความเข้มแข็ง ภายใต้การน้อมนำหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการส่งเสริมอาชีพและรายได้ของประชาชน สนับสนุนการสร้างอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพิ่มมูลค่าสินค้า ยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP รวมทั้งนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่า เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยก้าวสู่ระดับสากล” นางสาวอัยรินทร์ กล่าว
ด้านนางสาวศศิธร กล่าวว่า จังหวัดกระบี่มีเส้นทางเชื่อมโยงไปเกาะพีพี สามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ขณะเดียวกันท่าเรือเกาะลันตาก็เชื่อมไปเกาะพีพี เพื่อเป็นการย่นระยะทาง เพราะการเดินทางจากภูเก็ตมากระบี่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง โดยเชื่อว่าจะเป็นการช่วยลดความแออัดของการจราจร
สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัสที่รัฐบาลออกมานั้นจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับสินค้า OTOP และการท่องเที่ยวในชุมชนในพื้นที่จังหวัดกระบี่