Sisa Journal สื่อดังจากเกาหลีใต้ เปิดเผยรายงานพิเศษเกี่ยวกับการขยายตัวของอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามชาติ โดยชี้ว่า เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์จีน ที่เพิ่งหลบหนีจากกัมพูชา กำลังย้ายฐานปฏิบัติการมาตั้งในประเทศไทย
รายงานดังกล่าวอ้างอิงบทสัมภาษณ์ของชายชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งระบุว่าเป็น “ผู้จัดการระดับกลาง” ขององค์กรอาชญากรรมแห่งหนึ่งในไทย โดยเขายอมรับว่า แม้กัมพูชาจะมีการปราบปรามอย่างเข้มงวด แต่ขบวนการนี้ยังคงทำรายได้มหาศาล และมีแนวโน้มจะ ขยายกิจการเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
แม้ประเทศไทยจะมีมาตรการตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดมากขึ้น แต่ชายรายนี้เผยว่า เครือข่ายของตนยังสามารถ เล็ดลอดจากการบังคับใช้กฎหมาย ได้
เขาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การรับสมัครพนักงานของขบวนการมีการ ตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่เคยเดินทางไปเมียนมา ลาว หรือกัมพูชา จะถูกปฏิเสธทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไทยจับตานักเดินทางจากประเทศเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ทำให้เป้าหมายหลักของการรับสมัครคือ ชาวเกาหลีใต้วัยหนุ่มสาว อายุ 20-30 ปี เนื่องจากเชื่อว่าผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปีมักขาดทักษะการสื่อสารที่เหมาะสมกับงานคอลเซ็นเตอร์
ผู้สมัครจะได้รับข้อเสนอค่าตอบแทนที่ล่อตาล่อใจ โดยผู้ที่มีทักษะสูงสามารถทำรายได้ถึง 10-15 ล้านวอนต่อสัปดาห์ หรือราว 230,000–345,000 บาท
โครงสร้างขององค์กรแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับ 1 (พนักงานเริ่มต้น): โทรหาผู้คนแบบสุ่มเพื่อหาผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อ ระดับ 2: ใช้ทักษะการพูดโน้มน้าวเพื่อหลอกลวงเป้าหมาย ระดับ 3 (หัวหน้างานหรือผู้เชี่ยวชาญ): สมาชิกระดับสูงที่มีประสบการณ์และความรู้ด้านการเงิน รับผิดชอบงานที่ซับซ้อน
องค์กรยังมีกฎเหล็ก 2 ข้อคือ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในวันทำงาน และ ห้ามใช้ยาเสพติด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตำรวจจับได้ ทั้งยังห้ามสมาชิก แลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวกันโดยเด็ดขาด
ผู้สมัครต้องยื่นเอกสาร 3 อย่าง ได้แก่ สำเนาหนังสือเดินทาง ใบรับรองสุขภาพ และใบรับรองประวัติอาชญากรรม โดยผู้จัดการเผยว่า ใช้เพื่อระบุตัวผู้ต้องสงสัยหากเกิดเหตุโจรกรรมในองค์กร และเสริมว่า แม้แต่ผู้ที่เคยมีประวัติความผิดทางเพศก็จะถูกปฏิเสธ เพราะถือเป็น “ความเสี่ยงต่อการดำเนินงาน”
ขณะเดียวกัน ตำรวจเกาหลีใต้ กำลังประสานงานกับทางการกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือเหยื่อชาวเกาหลีใต้ที่ติดอยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม Sisa Journal รายงานว่า แม้จะมีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง แต่ขบวนการกลับมารวมตัวอีกครั้ง โดยบางกลุ่มได้ ย้ายฐานมาปฏิบัติการและรับสมัครสมาชิกใหม่ในประเทศไทย ซึ่งผู้จัดการเปิดเผยว่า ขณะนี้องค์กรของเขามีพนักงานชาวเกาหลีใต้อย่างน้อย 12 คน
#แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #สแกมเมอร์จีน #อาชญากรรมไซเบอร์ #ข่าวต่างประเทศ #SisaJournal #กัมพูชา #ประเทศไทย #คอลเซ็นเตอร์เกาหลี #CyberCrime #ScamThailand #ข่าวไวรัล







