เตรียมตัวให้พร้อม! คืนวันที่ 21 ตุลาคม 2568 นี้ วงการดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังส่งสัญญาณเตือนภัย...ไม่ใช่สิ! ต้องบอกว่ากำลังส่งสัญญาณแห่งความตื่นเต้น! เพื่อจับจ้องไปยัง "ดาวหางเลมมอน" (C/2025 A6 Lemmon) แขกรับเชิญจากห้วงอวกาศลึกที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อช่วงต้นปี 2568 และกำลังเดินทัพเข้าใกล้โลกมากที่สุดในค่ำคืนนี้ ด้วยระยะทาง 'แค่' ราว 89 ล้านกิโลเมตรเท่านั้น ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นี้
- เปิดตำนานดาวหางนักเดินทางข้ามสหัสวรรษ
ดาวหางเลมมอนนี้เป็นผลงานการค้นพบของทีมนักดาราศาสตร์จากโครงการ Mount Lemmon Survey ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 หอดูดาวแห่งนี้มีภารกิจหลักในการสอดส่องวัตถุใกล้โลก ทั้งดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง ซึ่งช่วยให้เราสามารถคำนวณวงโคจรและคาดการณ์เส้นทางการเคลื่อนที่ของมันได้อย่างแม่นยำ และที่มาของชื่อ "เลมมอน" ก็มาจากภูเขา Mount Lemmon ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอดูดาวผู้ค้นพบเจ้านักเดินทางแห่งนี้
จัดอยู่ในประเภท “ดาวหางคาบยาว (Long-period comet)” ที่นานเป็นพันปีมันจึงจะวกกลับมาเยือนระบบสุริยะชั้นในอีกครั้ง จากข้อมูลอันน่าทึ่งขององค์การนาซา (NASA/JPL) เผยว่า ดาวหางเลมมอนมีวงโคจรที่เอียงทำมุมประมาณ 144 องศา กับระนาบวงโคจรของโลก ทำให้มันเคลื่อนที่ในทิศทางที่สวนทางกับการหมุนรอบดวงอาทิตย์ของเราโดยสิ้นเชิง เชื่อกันว่ามันเคยโคจรเข้ามาเฉียดใกล้ดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 1,350 ปีที่แล้ว และการกลับมาในครั้งนี้ อาจจะต้องรอไปอีกนานถึง 1,150 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว!
ก่อนจะมาถึงโลก ดาวหางดวงนี้ได้ผ่านบททดสอบจากยักษ์ใหญ่แห่งระบบสุริยะ นั่นคือ ดาวพฤหัสบดี เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 ที่ระยะห่าง 2.33 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งแรงโน้มถ่วงมหาศาลของดาวพฤหัสบดีได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนคาบการโคจรของดาวหางอย่างมีนัยสำคัญ นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอุปสรรคอย่างแท้จริง
โอกาสทอง! ส่อง "เลมมอน" ด้วยตาเปล่า ช่วงปลายตุลาคมนี้
ใครที่พลาดไม่ได้แล้ว! ช่วงต้นของการปรากฏตัว ดาวหางเลมมอนจะโผล่บนท้องฟ้ายามเช้ามืดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเริ่มมองเห็นได้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม ผ่านกลุ่มดาวแมวป่า หมีใหญ่ และหมาล่าเนื้อ ความสว่างของมันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนถึงโชติมาตรประมาณ 4–5 ในช่วงวันที่ 17–18 ตุลาคม
แต่ช่วงเวลาที่นักล่าดาวทั่วโลกต้องเฝ้ารอคือ วันที่ 19 ตุลาคมเป็นต้นไป เมื่อดาวหางจะย้ายไปปรากฏบนท้องฟ้า ยามหัวค่ำทางทิศตะวันตก ซึ่งถือเป็นช่วงพีคที่สุดสำหรับการชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2568 ที่คาดการณ์ว่าดาวหางจะสว่างที่สุด ราวโชติมาตร 3–4 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่ท้องฟ้ามืดมิดและปราศจากมลภาวะทางแสงจากเมืองใหญ่
คู่มือพิชิตดาวหางเลมมอน!
เพื่อให้คุณไม่พลาดปรากฏการณ์แห่งปี เรามีคำแนะนำพิเศษจากนักดาราศาสตร์:
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: 21–31 ตุลาคม 2568 หลังพระอาทิตย์ตกดิน
ทิศทาง: ทิศตะวันตกเฉียงใต้
สถานที่เหมาะสม: ต้องเป็นบริเวณที่ท้องฟ้ามืดสนิท ห่างไกลจากแสงไฟในเมือง
อุปกรณ์ช่วย: กล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กจะช่วยให้คุณสามารถเก็บภาพและรายละเอียดของหางที่งดงาม และแกนกลางของดาวหางได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การมาเยือนของดาวหางเลมมอนครั้งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ท้องฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของปี 2568 เพราะเป็นดาวหางสว่างที่มีโอกาสปรากฏให้เห็นด้วยตาเปล่าในรอบหลายปี! นักดูดาวและช่างภาพท้องฟ้าทั่วโลกต่างเตรียมอุปกรณ์สุดยอดเพื่อรอเก็บภาพหางยาวระยิบระยับที่จะทอดเคียงฟ้าในยามค่ำคืนนี้ ช้าไม่ได้แล้ว! เตรียมตัวออกเดินทางสู่การผจญภัยในห้วงอวกาศไปพร้อมกับ "ดาวหางเลมมอน" ได้เลย!
ขอบคุณภาพจาก : สมาคมดาราศาสตร์ไทย
#ดาวหาง #ดาวหางวันนี้ #ฝนดาวตกวันนี้ #ดาวหางเลมมอน #C2025A6 #ปรากฏการณ์ท้องฟ้า #ดูดาว #ดาราศาสตร์ #ดาวหางสว่าง #LemmonComet








