บทความ บทวิเคราะห์

จาก "สแกมเมอร์" ถึง "ชายแดน" 2 ปัจจัยร้อน กดดัน "นายกฯ หนู" !

แชร์ข่าว

รัฐบาลชุดปัจจุบันที่นำโดย "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตั้งขึ้นด้วยข้อตกลง MOA ที่จำกัดอายุไว้เพียง 4 เดือนเท่านั้น โดยตามกำหนดการเดิม การยุบสภาฯ จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม 2569

แต่ปรากฎว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเวลานี้ ทั้งนายกฯอนุทิน และครม. เผชิญกับสถานการณ์กดดันที่อาจทำให้ไทม์ไลน์ทางการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่คาดคิด !

เรื่องร้อน เรื่องใหญ่ ล่า "สแกมเมอร์" สกรีน รมต.

แรงกดดันจากนานาประเทศเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบและไล่ล่า "สแกมเมอร์" อย่างจริงจัง แต่ปัญหาได้ซ้อนทับเข้ามาเมื่อมีชื่อของบุคคลระดับรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้อง คือ วรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำลังเผชิญกับคลื่นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ความเกี่ยวข้องของนายวรภัคที่ถูกจับตามองคือ การให้คำปรึกษาแก่ Yim Leak ประธาน BIC Bank และ Yim Leak ยังเป็นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ BIC Group ในประเทศกัมพูชาด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ ที่ถูกหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการเชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์

การที่มีคนในรัฐบาลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ถูกกล่าวหาในคดีอาชญากรรมข้ามชาติ จึงเป็นประเด็นที่สร้างความสั่นคลอนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งล่าสุด วันนี้หลังการประชุมครม. นายกฯอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ทำเนียบฯ ว่า เรื่องนี้ วรภัค จะเป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงเอง นอกจากนี้ยังให้วรภัค ทำหนังสือชี้แจงกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษร

สำหรับกรณี วรภัค นั้นยังมีความชัดเจนล่าสุดว่า นายกฯอนุทิน ยืนยันว่าไม่ได้มีการตั้งวรภัค ให้เป็น ประธานคณะทำงานตรวจสอบเส้นทางการเงินสแกมเมอร์และเงินเทา ตามที่มีข่าวแต่อย่างใด

"ปริเยศ อังกูรกิตติ" โฆษกพรรคไทยสร้างไทย พรรคฝ่ายค้าน ออกมาแสดงความเห็นว่า หากมีการตั้งวรภัค จริงจะทำให้เกิดคำถามกับสังคมตามมาแน่นอน การแต่งตั้งบุคคลที่เคยมีความสัมพันธ์เชิงการให้คำปรึกษากับเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศมาเป็นผู้ตรวจสอบ จึงไม่สร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสได้เลย แม้ วรภัคจะยืนยันว่า การให้คำปรึกษาเป็นเพียงการพูดคุยในระดับประสบการณ์ธุรกิจธนาคารเท่านั้นก็ตาม

รัฐมนตรีบิ๊กเนม ในครม. "อนุทิน 1" ที่ยังอยู่ในแสงสปอร์ตไลต์ นอกจากวรภัค แล้ว ยังมี "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งแม้จะไม่ได้ อยู่ภายใต้การกำกับของ พรรคภูมิใจไทย แต่แรงกดดันที่ ร.อ.ธรรมนัส กำลังถูกฝ่ายค้านตรวจสอบ ว่ามีความเชื่อมโยงกับเบนสมิธ เมาเออร์เบอร์เกอร์ และเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ ด้วยหรือไม่

โดยร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า อย่าเพิ่งไปกล่าวหา เบน สมิธ ว่าเป็นแก๊งสแกมเมอร์ ในเรื่องกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกานั้นยังไม่มี ต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองก่อน นอกจากนี้ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันว่า ตนเองไม่เคยทำธุรกิจสีเทา และมีเงินก่อนที่จะเข้ามาเล่นการเมืองอยู่แล้ว

ดูเหมือนว่า เวลานี้ 2 รัฐมนตรีที่กำลังตกเป็น "เป้าหมาย" ในการตรวจสอบของฝ่ายค้านและสังคม ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะทำให้ รัฐบาล และเก้าอี้นายกฯ สะเทือนไปด้วยหรือไม่ ?

ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยังจบไม่ลง !

นอกจากวิกฤตสแกมเมอร์แล้ว รัฐบาลยังคงต้องจัดการปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ว่ารัฐบาลจะมอบ "อำนาจเต็ม" ในการแก้ไขปัญหาให้กับกองทัพไปแล้ว แต่ล่าสุด ปัญหาเกี่ยวกับการพิจารณายกเลิก MOU 43 และ 44 กลับกลายเป็นประเด็นร้อนที่ตามมาติดๆ

เนื่องจากวันนี้สังคมแบ่งความเห็นออกเป็นสองฝ่าย คือเห็นด้วยกับการยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ กับอีกฝ่ายมองว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา นั้นไม่เกี่ยวกับ MOU แต่หากไทยยกเลิกจริง จะส่งผลทำให้ไม่มีเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา ตามมา

ดังนั้นทั้งปัญหาการเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ของรัฐมนตรี และความร้อนแรงของประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ดูจะมีน้ำหนักกดดันเหนือกว่า "ชนวน" จากปัญหาทางการเมืองปกติ เพราะปัจจุบันพรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลอยู่ในจุดที่ได้เปรียบทางการเมืองอยู่แล้ว แต่ความได้เปรียบทางการเมือง สำหรับ "พรรคสีน้ำเงิน" ที่กำลังโตวัน โตคืน ด้วย "พลังดูด" เกินต้านเช่นนี้ จะจัดการกับปัญหา เฉพาะหน้าที่ "การเมือง" ก็อาจช่วยพยุงให้ไปต่อได้ลำบากอย่างไร ?

ข่าวแนะนำ