วันที่ 21 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวสุมาลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี อยู่ ม.7 ต.ไผ่ต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี ได้พาเด็กหญิงน้ำ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี หลานสาว เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าเด็กหญิงน้ำ หลานสาวของตนเองได้อาศัยอยู่กับย่าที่ จ.กาญจนบุรี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดท่าน้ำผึ้ง ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ถูกนายประวิทย์ หรือนาจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลุง และเป็นสามีใหม่ของย่า มีอาชีพเป็นพนักงานขับรถห้องเย็นแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เข้ามาข่มขืนหลานตัวเองภายในห้องนอน ในบ้านที่อาศัยอยู่ ม.2 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถึง 3 ครั้ง โดยบังคับไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกกับใครๆ โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ (จำวันที่ไม่ได้) เวลากลางคืน และครั้งสุดท้ายในวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งทุกครั้งนายนาจ หลังจากข่มขืนเสร็จจะบังคับเด็กหญิงน้ำ ว่าไม่ให้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับใครๆ

ด้านนางสาวลี (น้าสาว) เล่าว่า พ่อกับแม่ของหลานตนเองได้แยกทางกันไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่หลานของตนเองอายุได้ 6 เดือน จากนั้นแม่ของตนเอง(ยายของหลาน) ก็เลี้ยงมาตั้งแต่นั้นมาที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จนเรียนถึงชั้นประถมปีที่ 6 กลางเทอมจึงได้ย้ายไปอยู่กับย่า ที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อที่จะได้เรียนต่อในระดับมัธยมที่ จ.กาญจนบุรี และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นหลานของตนเองได้ให้พ่อของหลานไปรับจาก จ.กาญจนบุรี มาที่ จ.ปทุมธานี จากนั้นหลานของตนเองได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเล่าให้กับลูกพี่ลูกน้องฟังว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับตนเองบ้าง จากนั้นลูกพี่ลูกน้องก็มาเล่าให้แม่ของตนเองฟังเมื่อแม่ของตนเองรู้เรื่องก็ร้องให้ และโทรมาบอกกับตนเองว่าหลานโดนข่มขืน และบอกว่าให้ตนเองพาหลานไปตรวจร่างกาย และไปแจ้งความไว้ด้วย ตนเองจึงได้พาหลานสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.บ้านนา และไปแจ้งความที่ สภ.บ้านนา จ.นครนายก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความที่ จ.กาญจนบุรี แต่เนื่องจากว่าตนเองไม่มีเงินที่จะเหมารถไป จึงได้มาปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค อีกครั้งว่าจะสามารถช่วยทำอะไรให้ได้บ้าง เนื่องจากว่าหลานสาวของตนเองเดความหวาดกลัว และแฟนของผู้ก่อเหตุก็พยายามที่จะตามหาตัวหลานอยู่ และพยายามที่จะโทรติดต่ออยู่ตลอดเวลา เพื่อจะมาคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่แม่ของตนเองไม่ยอมและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากว่าแม่ของตนเองเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ตอนนี้ตนเองติดปัญหาตรงที่ว่าตนเองไม่มีเงินที่จะไปเมืองกาญ เนื่องจากว่าต้องใช้เงิน จึงได้มาปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.หนองแค เพราะว่าไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากว่าหลานสาวก็เกิดความกลัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าจะประสานให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองกาญ ให้ซึ่งตนเองก็ยังคงต้องรออยู่ ตนเองพยายามที่จะติดต่อขอความช่วยเหลือไปแล้วในเพจต่างๆ หลายที่ด้วยกัน เนื่องจากว่าตนเองกลัวที่ทางผู้ก่อเหตุจะช่วยกัน และหลานของตนเองจะไม่ได้รับความปลอดภัยด้วย ซึ่งทางครอบครัวผู้ก่อเหตุก็พยายามทุกวิถีทางที่จะมาที่บ้านของตนเองเพื่อที่จะมาหาหลานตนเองให้ได้
นางสาวลี กล่าวเสริมว่า ที่ตนเองมาร้องผู้สื่อข่าว เนื่องจากว่าตนเองเป็นห่วงในเรื่องสภาพจิตใจของหลาน และอยากให้ได้รับความเป็นธรรม และอยากให้ผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวให้โดยเร็ว เนื่องจากว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุพยายามที่จะติดต่อตนเองและหลานทุกช่องทาง ซึ่งเขาอาจจะไม่ทำอะไร แต่คิดว่าจะพยายามพูดเกลี้ยกล่อมหลานสาวตนเองไม่ให้เอาเรื่อง ตนเองจึงได้พาหลานหลบหนีเพื่อที่จะได้ไม่ให้เจอกัน และตอนนี้ตนเองได้ติดต่อกับพ่อของหลานให้ทำเรื่องย้ายกลับมาเรียนที่นี่ เนื่องจากว่าถ้าขืนอยู่ที่เดิมเกรงว่าหลานจะไม่ได้รับความปลอดภัย

เด็กหญิงน้ำ (นามสมมติ) เล่าว่า บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี โดยอาศัยอยู่ด้วยกัน 6 คน โดยเมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมาขณะที่ตนเองอนอนอยู่ภายในห้องนอนจากนั้นนายนาจ(ลุง)ได้เปิดประตูห้องเข้ามา และจับตนเองล้มตัวลงนอนบังคับข่มขืนตนเอง ซึ่งตนเองไม่ได้ยอม และก็ไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือจากใครๆ เนื่องจากถูกข่มขู่ไม่ให้บอกใคร โดยตนเองถูกลุงข่มขืนด้วยกัน 3 ครั้ง ในครั้งที่ 2คืนวันเสาร์ จำวันที่ไม่ได้ และในวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งห้องที่ตนเองนอนตนเองนอนอยู่คนเดียว จากนั้นวันที่ 16 ตุลาคม ตนเองจึงได้หนีมาหายาย ที่จ.ปทุมธานี ตอนนี้ตนเองรู้สึกหวาดกลัว และไม่กล้าที่จะไปพบเจอใครๆ และตอนนี้ทางครอบครัวลุงพยายามที่จะติดต่อตนเองอยู่ตลอดเวลา ตนเองก็ไม่กล้ารับสาย พยายามจะถามหาว่าตนเองอยู่ที่ไหนแต่ตนเองก็ไม่ได้บอกไป
#ภูมิภาค-41