วันที่ 21 ต.ค.68 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอช ที อาร์ จำกัด ให้ทนายไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ว่าได้รับทราบเรื่องจากข่าวที่นำเสนอ โดยขณะนี้ยังยืนยันที่จะขอพิจารณารายละเอียดการแจ้งความก่อนว่ามีการแจ้งความในประเด็นใดบ้าง เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะหมิ่นประมาทบริษัทแต่อย่างใด สิ่งที่ทำไปคือการแชร์ข้อมูลว่ามีบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ที่อาคารของชิโนไทยเท่านั้น และไม่ได้ระบุในโพสต์ว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทสแกมเมอร์หรือไม่ แต่บุคคลอื่นอาจนำไปคาดเดาต่อกันเอง
เมื่อถามว่าที่มาของข้อมูลมาได้อย่างไร นายศุภณัฐ กล่าวว่า ข้อมูลที่นำมาใช้นั้นเป็นข้อมูลที่สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้โดยทั่วไป บริษัททุกแห่งที่จดทะเบียนในประเทศไทยจะต้องแจ้งข้อมูลที่ตั้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของข้อมูล นอกจากนี้ ข้อมูลยังมีการแจ้งผ่านเว็บไซต์ต่างๆ หรือสามารถค้นหาได้บน Google ซึ่งจะปรากฏข้อมูลที่ตั้งและรายละเอียดอื่นๆ อยู่แล้ว
“ความจริงก็อาจจะมองในเรื่องของ SLAPP ผมเรียกร้องเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ของชิโนไทยด้วยซ้ำ เพื่อให้เห็นว่ามีบริษัทตั้งอยู่ที่อาคารชิโนไทย ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้พิจารณายกเลิกสัญญาหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวความเสียหายเกิดขึ้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อปกป้องประโยชน์ของบริษัทด้วยซ้ำ ส่วนจะเป็นการ SLAPP ไหมในข้อมูลที่โพสต์ไปเป็นข้อเท็จจริงทั่วไปที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ การที่มาฟ้องหรือแจ้งความเช่นนี้ จึงน่าจะเป็นการ SLAPP ซึ่งตอนนี้สังคมก็ตั้งคำถามมากมายต่อการกระทำของบริษัทที่มาดำเนินการฟ้องร้อง”นายศุภณัฐ กล่าว
นายศุภณัฐ กล่าวต่อว่า ถ้ามองตามความคิดเห็นของสื่อมวลชนและสาธารณชน ส่วนใหญ่ค่อนข้างวิพากษ์วิจารณ์บริษัทในแง่ลบ และมองว่าไม่ควรมีการแจ้งความในเรื่องเหล่านี้ หากจะมีการแจ้งความจริง ก็ควรแจ้งความต่อผู้ที่ให้ข้อมูลโดยตรงคือตัวบริษัทที่มาเช่าตึก, หรือทาง Prince Holding Group ที่มีการระบุบนเว็บไซต์, หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้าซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลต้นทาง เพราะเมื่อมีการฟ้องร้องแล้วต้นทาง อย่างไรก็ตามก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานเข้ามาต่อสู้คดี แม้ว่าจะเข้าใจว่าคดียังอยู่ในขั้นตอนการแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน"นายศุภณัฐ กล่าว
เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้มามีความเชื่อมโยงของบริษัท นายศุภณัฐ กล่าวว่า มีข้อสังเกตหลายประการที่ได้ตั้งเป็นประเด็นไว้แล้ว เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ในต่างประเทศมีการระบุว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทในเครือข่าย และทาง BBC ก็มีการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงการย้อนข้อมูลบนเว็บไซต์ก่อนหน้านี้ ซึ่งบนเว็บไซต์และโดเมนเดียวกัน เคยระบุถึงความเชื่อมโยงกับทาง Holding Group และความพยายามติดต่อเพื่อซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ทาง Thai PBS ก็มีการสืบสวนเชิงลึก รวมถึงมีการสัมภาษณ์อดีตพนักงานหรืออดีตผู้บริหาร ซึ่งมีข้อมูลที่โยงถึงความเกี่ยวข้องกันในอดีต แต่ปัจจุบันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว หากบริษัทสามารถชี้แจงได้ว่าในอดีตเคยมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน หรือเคยช่วยซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อย่างไร ก็สามารถชี้แจงได้ ทำไมในเวปไซด์ถึงระบุอย่างนั้น ทางบริษัทช่วยชี้แจงได้ดีกว่า
เมื่อถามว่าจะใช้กลไกสภาเพื่อตรวจสอบรัฐบาลอื่นอีกหรือไม่ หรือให้รมว.มหาดไทยมาชี้แจง นายศุภณัฐ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้มองว่าประเด็นนี้เป็นการเจาะจงที่ตัวนายกฯ แต่หากจำเป็นต้องใช้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ต้องเรียกกออกมา เช่น เส้นทางการเงิน การประกอบธุรกิจ หรือสาเหตุที่เว็บไซต์ก่อนหน้านี้มีการระบุโยงไปยังที่กัมพูชา ก็สามารถเรียกเอกสารต่างๆ ออกมาได้ แต่ไม่ได้เจาะจงรมว.มหาดไทยว่าต้องให้มาชี้แจง ท่านอื่นก็มาชี้แจงได้ แต่ถ้านายกฯจะมาชี้แจงในระดับนโยบาย ว่ารัฐบาลได้พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ ในการตรวจสอบบริษัทสแกมเมอร์และเส้นทางการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าเป็นวาระแห่งชาติ นายศุภณัฐ กล่าวว่า รัฐบาลคงเข้าไปตรวจสอบเข้มข้นไม่เฉพาะเส้นทางการเงิน ยังตรวจสอบกรรมการ ผู้ถือหุ้น ทั้งคนปัจจุบันและคนก่อนหน้า รวมถึงธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และการได้มาซึ่งรายได้และรายจ่ายของธุรกิจ มีรายจ่ายไปที่ไหนอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าจะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่เพราสส.พรรคประชาชนถูกฟ้องร้อง นายศุภณัฐ กล่าวว่า เราคงต้องเดินหน้าต่อ แต่ต้องดูรายละเอียดในคอนเทนต์ตางๆ เพราะมองว่าการเป็น SLAPP เป็นสิ่งที่ไม่อาจเห็นด้วยได้ ต้องมีการแยกแยะระหว่างเรื่องหมิ่นประมาทกับเรื่อง SLAPP แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ อาจถึงร้อยละ 95 จะเป็น SLAPP แต่อาจมีส่วนที่เป็นหมิ่นประมาทจริงอยู่บ้างก็ได้ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หลักการสำคัญคือการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติให้ได้มากที่สุด