วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) และการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC) โดยระบุว่า หากการประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม พลเอก ณัฐพล ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไทยจะไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างแน่นอน พร้อมทั้งกล่าวเตือนว่า หากการประชุมครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็คงจะไม่มีการประชุมครั้งต่อไปให้เปลืองภาษีแล้ว
พลเอก ณัฐพล ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุม JBC ว่า การประชุมนี้เป็นการเจรจาในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย แต่สำหรับพื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่อ้างสิทธิ์นั้น ทาง JBC ถือว่าเป็นอธิปไตยของไทย ในขั้นต้น เรายังไม่ได้ยอมรับว่าพื้นที่เหล่านั้นเป็นเขตของกัมพูชา โดยเป้าหมายคือเราต้องเร่งนำที่ดินของพี่น้องคนไทยกลับคืนมา โดยเฉพาะในส่วนที่ทำได้คือพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือพื้นที่อ้างสิทธิ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังว่า ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือการตกลงกันได้ในการประชุม JBC ครั้งนี้ แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จะใช้เส้นอ้างสิทธิ์ที่มีอยู่มาพิจารณา โดยย้ำว่า พื้นที่ที่นอกเหนือจากพื้นที่อ้างสิทธิ์จะต้องเป็นของไทย หากกัมพูชาไม่ยอมคุยเลย เราก็จะไม่สนใจแล้ว พลเอก ณัฐพลยังได้เชื่อมโยงผลของการเจรจาไปยังเวทีระดับภูมิภาค โดยคาดการณ์ว่า หากการประชุม JBC ไม่สำเร็จ การประชุม ASEAN Summit ก็คงจะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน และจะไม่มีการประชุมให้เปลืองภาษีอีก
นอกจากประเด็นเขตแดนแล้ว พลเอก ณัฐพล ยังกล่าวถึงประเด็นสแกมเมอร์ โดยระบุว่า นโยบายของรัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นเพียงสันติวิธีอย่างเดียว แต่จะดำเนินการตามขั้นตอนและกติกาสากลโลก แต่หากไทยได้ดำเนินการอย่างถึงที่สุดแล้ว กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอธิปไตยและศักดิ์ศรีของไทย เราได้พยายามทำตามสันติวิธีและกติกาสากลแล้ว หากไม่ได้รับความร่วมมือ ผลลัพธ์ก็จะเป็นไปตามที่ได้แจ้งไว้