วันที่ 20 ต.ค.68 พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ออกคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ชุดใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเมืองอย่างเป็นระบบทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการพื้นที่ ก่อนเข้าสู่บรรยากาศเลือกตั้งที่เริ่มขยับใกล้เข้ามา
คำสั่งพรรคเลขที่ ที่ 31/2568 ลงนามโดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การบริหารงานของพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของพรรค และเพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการเลือกตั้งให้เกิดเอกภาพสูงสุด
จัดทัพใหม่ภายใต้โครงสร้างเข้มแข็ง
คณะกรรมการชุดนี้มี นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เป็นประธานกรรมการ และมีรองประธานกรรมการ 4 คน ได้แก่
หม่องหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี นายวัน อยู่บำรุง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และ นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล
พร้อมด้วยกรรมการอีกหลายรายจากหลากหลายพื้นที่ รวมถึง นายมนูญ พรหมลักษณ์ ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการ ซึ่งถือเป็นทีม “ผสมผสานประสบการณ์ ภาคสนาม” ที่ตอบโจทย์ทั้งการเมืองเมืองหลวงและการประสานงานในพื้นที่ปริมณฑล
ลุงป้อมขยับเอง เดินเกมสร้างความพร้อมทั่วกรุงเทพฯ
การแต่งตั้งคณะกรรมการครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “สัญญาณการขยับตัวทางการเมือง” ของ พลเอก ประวิตร ที่ยังคงเดินเกมอย่างสุขุม แต่แน่วแน่ สะท้อนความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐที่จะกลับมามีบทบาทในสนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างภายในพรรคอย่างต่อเนื่อง
ภารกิจหลักของคณะกรรมการชุดนี้ครอบคลุมตั้งแต่
1. การบริหารจัดการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรสาคร)
2. การคัดเลือกผู้สมัครและประสานงานกับคณะกรรมการบริหารพรรคส่วนกลาง
3. การกำหนดแนวทางสื่อสารและนโยบายให้สอดคล้องกับบริบทเมืองใหญ่
4. การสร้างฐานเสียงใหม่ในกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่และกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก
“เอกภาพ–ประสบการณ์–คนทำงานจริง” จุดแข็งพลังประชารัฐ
แหล่งข่าวในพรรคเผยว่า โครงสร้างคณะกรรมการครั้งนี้สะท้อน “ความเป็นเอกภาพทางการเมือง” ภายใต้การนำของ ลุงป้อม ซึ่งให้ความสำคัญกับการผสานทั้งรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจพื้นที่จริง
กลุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็น “กลไกกลาง” ในการเชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างส่วนกลางและพื้นที่ รวมถึงเป็นทีมปฏิบัติการทางการเมืองที่ลงถึงชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากประชาชนในเมืองหลวง
“พลังประชารัฐในยุคลุงป้อม เป็นพรรคที่มีระบบมากขึ้น เน้นทีมเวิร์กและความชัดเจนในการบริหาร” แหล่งข่าวระดับกรรมการบริหารพรรคกล่าว
จับตา “กรุงเทพฯ สมรภูมิเศรษฐกิจ-การเมือง”
กรุงเทพมหานครยังคงเป็น “สมรภูมิหลัก” ที่ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญสูงสุด เนื่องจากเป็นพื้นที่สะท้อนภาพรวมทางการเมืองระดับชาติ และเป็นศูนย์กลางของฐานคะแนนเสียงกลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่งพลังประชารัฐมุ่งมั่นจะสื่อสารนโยบายใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้ง “เศรษฐกิจเมือง” และ “ความมั่นคงในชีวิตคนกรุง”
คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ จึงไม่เพียงเป็นการจัดทัพ แต่ยังเป็น “สัญญาณความพร้อม” ของพรรคพลังประชารัฐในการกลับมาสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างมีระบบและมั่นใจ
พรรคพลังประชารัฐในยุคลุงป้อมกำลังแสดงให้เห็นถึง “วินัยและยุทธศาสตร์” ในการบริหารภายในพรรคอย่างเป็นรูปธรรม จากการจัดโครงสร้างใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนความพร้อมทางการเมือง แต่ยังแสดงถึง “การกลับมาของผู้นำที่เข้าใจทั้งสนามเลือกตั้งและหัวใจของประชาชน”
#พลังประชารัฐ #ลุงป้อม #เลือกตั้ง2025 #กรุงเทพฯ #การเมืองไทย #ปรับโครงสร้าง #เลือกตั้ง