วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงการกินเจอย่างถูกหลักโภชนาการและสุขอนามัย เนื่องในโอกาสเทศกาลกินเจหรือประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวจีน สำหรับในปี 2568 นี้ เทศกาลดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 29 ตุลาคม 2568 โดยคนไทยเชื้อสายจีนเชื่อว่าการกินเจเป็นการละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ การกินเจที่ถูกต้องยังช่วยให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น, ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก, และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, ไขมันอุดตันในเส้นเลือด, และโรคอ้วน เป็นต้น ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรคได้ย้ำว่า ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อควรปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารเพื่อให้เกิดพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อควรเลือกรับประทานอาหารเจที่ดีต่อสุขภาพตามหลัก 2:1:1 ซึ่งหมายถึงการจัดสัดส่วนของอาหารให้มี ผัก 2 ส่วน, ข้าวกล้อง 1 ส่วน, และโปรตีนจากพืช 1 ส่วน เช่น ถั่ว สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเฉพาะควรเพิ่มความระมัดระวัง โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน, ไอศกรีม, และเบเกอรี่ ส่วนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ควรจำกัดการทานโซเดียม โดยเลี่ยงการเติมเกลือหรือซอสปรุงรสเพิ่มเติมในอาหาร, งดอาหารหมักดอง, และระวังอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย, ส้ม, ผักสีเข้มต่าง ๆ, ฟักทอง, ชะอม, และมะเขือเทศ
ขณะที่ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาทิ อาหารทอดและแกงกะทิ พร้อมกันนี้ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรือสะสมให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อสามารถทำบุญและมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมกันได้
ด้านนายแพทย์กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวเพิ่มเติมสำหรับประชาชนที่ต้องการกินเจว่า ควรเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ, รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นผักและผลไม้หลากสี ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 8 – 10 แก้วต่อวัน และเพิ่มโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว, ธัญพืช, และเต้าหู้ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงคืออาหารที่มีรสชาติ หวานจัด, มันจัด, และเค็มจัด รวมถึงอาหารสำเร็จรูปและอาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบมาก
หากต้องเลือกเมนูอาหาร ควรสั่งหรือทำเมนูตุ๋น ต้ม นึ่ง แทนเมนูที่มีการ ผัด หรือ ทอด และที่สำคัญต้องระวังการได้รับโซเดียมเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลโภชนาการได้จากฉลากผลิตภัณฑ์ และควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)