ภาคปศุสัตว์ไทย กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของการผ่อนคลายแรงกดดันด้านต้นทุนครั้งสำคัญในปี 2568 หลังต้องเผชิญภาวะราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์พุ่งสูงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจัยบวกสำคัญมาจากแนวโน้มราคาวัตถุดิบหลักที่ปรับลดลงทั่วโลก ทั้งกากถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวสาลี ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่ออัตรากำไรของผู้ประกอบการธุรกิจสุกรและไก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อุปทานทั่วโลกอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์
กากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนหลัก คาดว่าราคาจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลผลิตในสหรัฐอเมริกาและบราซิลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคา Spot ของกากถั่วเหลืองนำเข้าลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ขณะที่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีแนวโน้มราคาลดลงเช่นกัน จากสภาพการเพาะปลูกที่เอื้ออำนวยและผลผลิตในสหรัฐฯ ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ส่วน ข้าวสาลี ในฐานะวัตถุดิบทดแทนก็ปรับตัวลงตามกลไกตลาดโลกที่อุปทานเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการบางรายยังได้ใช้โอกาสนี้ล็อกสัญญาซื้อกากถั่วเหลืองล่วงหน้า เพื่อรักษาต้นทุนในระดับต่ำ ยิ่งช่วยเสริมความได้เปรียบด้านการแข่งขันและสร้างโอกาสทำกำไรที่สดใสขึ้น
แม้ต้นทุนจะลดลง แต่ภาพรวมความต้องการอาหารปศุสัตว์ยังคงทรงตัวหรือขยายตัวเล็กน้อย โดยเฉพาะอาหารสำหรับ สุกร และ ไก่ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการผลิตสุกรหลังควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรและไก่ในประเทศยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดอาหารสัตว์น้ำ เช่น ปลา กุ้ง อาจเผชิญแรงกดดันจากการผลิตที่ลดลง เนื่องจากปัญหาโรคระบาดในกุ้ง ความผันผวนของราคาสัตว์น้ำ และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
อีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญต่อ ภาคปศุสัตว์ไทย คือ นโยบายของภาครัฐที่มุ่งลดภาระต้นทุนของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม โดยร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายลดภาระต้นทุนการผลิตด้านอาหารสัตว์ จึงสั่งการให้กรมปศุสัตว์เดินหน้า “โครงการอาหารสัตว์ธงเขียว” ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญภายใต้นโยบาย “3 สร้าง” ได้แก่ สร้างรายได้-สร้างตลาด- สร้างโอกาส พร้อมบูรณาการกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนสหกรณ์ด้านปศุสัตว์ทั่วประเทศสามารถผลิตอาหารข้นและอาหารหยาบใช้เองได้ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ลดการพึ่งพาตลาดภายนอก และสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกร ผ่าน3 แนวทางหลัก
ส่งเสริมการผลิตอาหารผสมสำเร็จรูป (TMR - Total Mixed Ration) สำหรับโคเนื้อและโคนม ด้วยการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตั้งเป้าผลิต TMR ราคาประหยัดในปี 2569 รวม 670,000 กิโลกรัม
สนับสนุนสูตรลดต้นทุนอาหารข้นสำหรับสุกร เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยผลิตใช้เองภายในฟาร์ม ลดต้นทุนการผลิตเฉลี่ยได้ถึงร้อยละ 20
ขยายพื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์เพิ่มอีก 50,000 ไร่ทั่วประเทศ พร้อมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์และท่อนพันธุ์คุณภาพดี เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านวัตถุดิบในฟาร์ม
สถานการณ์ราคาอาหารปศุสัตว์ในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ในสภาวะที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงที่ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูง แต่ความท้าทายจาก โรคระบาดในปศุสัตว์ และความผันผวนของราคาสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูปในตลาด เช่น อุปทานสุกรที่ยังตึงตัวจากผลกระทบ ASF ในช่วงก่อนหน้า และความผันผวนของราคาไก่เนื้อ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ผู้ประกอบการและภาครัฐต้องบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด
#วัตถุดิบอาหารสัตว์ #ปศุสัตว์ไทย #อาหารสัตว์ธงเขียว #ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์