วันที่ 18 ตุลาคม 2568 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตรวจน้ำประปา พืชผักและปลา ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดเชียงราย กระทรวงสาธารณสุข พบน้ำประปาหมู่บ้าน 18 แห่งปนเปื้อนสารโลหะหนักว่า จากข้อมูลที่ได้รับพบว่าหมู่บ้านที่มีการสำรวจส่วนใหญ่มีระบบประปาหมู่บ้านที่ยังไม่ได้ทำให้เป็นมาตรฐาน และเมื่อตรวจน้ำดิบก่อนผลิตน้ำประปา พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้พบ (การปนเปื้อนโลหะหนัก) เกินมาตรฐาน
“ส่วนของระบบการผลิตน้ำประปา เราได้ตรวจร่วมกับ อว. (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) พบว่าส่วนใหญ่น้ำประปาหมู่บ้านในเชียงรายมีค่าสนิมเยอะ มีสารปนเปื้อนอยู่บ้าง ทั้งนี้ระบบประปาหมู่บ้านแต่ละแห่งอาจใช้สารส้ม คลอรีน แต่ก็ไม่ค่อยได้ใส่ ไม่ค่อยนิยมใส่ พบว่าการปนเปื้อนเหล่านี้มาพร้อมกับความขุ่นของน้ำ การใส่สารส้มและคลอรีนฆ่าเชื้อ ส่วนใหญ่ประปาหมู่บ้านจะใส่ในปริมาณน้อย เพราะชาวบ้านไม่นิยม เมื่อได้กลิ่นคลอรีนก็ไม่ชอบ ทำให้มีการใส่คลอรีนน้อย”นายก อบจ.เชียงราย กล่าว
นายกอบจ.เชียงราย กล่าวว่าอบจ. จะมีทำต้นแบบร่วมกันกับอว. 2-3 แห่งเพื่อเริ่มต้นเป็นตัวอย่างของระบบน้ำประปาหมู่บ้านที่ได้มาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวถามถึงประปาหมู่บ้าน 18 แห่งที่ตรวจพบสารตะกั่วปนเปื้อนว่าได้สั่งการแก้ปัญหาอย่างไร นางอทิตาธร กล่าวว่าทำความเข้าใจกับชุมชนว่าสารปนเปื้อนที่พบมาพร้อมกับความขุ่นของน้ำ หากทำให้ตกตะกอนและเพิ่มแรงดันเข้าไป บางส่วนสามารถทำได้เองและมีระบบ ตอนนี้ อบจ.เชียงรายมีแจกเครื่องทดสอบความขุ่นของน้ำ สำหรับโลหะหนักได้ทำร่วมกันกับสาธารณสุขจังหวัดที่ตรวจในลำน้ำแม่น้ำ
“ได้พูดกับกระทรวงสาธารณสุขว่าเป็นส่วนที่เราต้องกลับมาคิดกันให้ดี เรามีความวิตกกังวลเรื่องสารปนเปื้อนซึ่งเราอยู่ปลายน้ำ สิ่งที่เรากังวลที่ต้นน้ำคือเหมืองแร่เอิร์ธในฝั่งพม่า ได้เสนอต่อรองนายกฯรัฐมนตรี (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) ที่ได้ลงพื้นที่ว่า รัฐบาลต้องแก้ไขจริงจังกับต้นน้ำ ต้องไปคุยว่าระบบการกำจัดของเขาที่ (เหมืองแร่) ต้นน้ำกกจะทำอย่างไร”นายก อบจ.เชียงราย กล่าว
นางอทิตาธรกล่าวว่า ระบบประปาหมู่บ้านต้องทำความเข้าใจกับท้องถิ่นให้ดูระบบประปาหมู่บ้านว่าสามารถปรับปรุงได้หรือไม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายเพียงหลักหมื่นเท่านั้น จะเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตประปาหมู่บ้านให้ตกตะกอน ขณะเดียวกันก็อยากรณรงค์การลดการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่ลงดินและลงที่น้ำด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการร้องเรียนต่อรองยกรัฐมนตรีเรื่องผลการปนเปื้อนในผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวนาปีที่กำลังจะเก็บเกี่ยว นายกอบจ.กล่าวว่าผลผลิตทางการเกษตรข้าว เท่าที่ทราบมีความกังวลเรื่องราคามากกว่าหรือไม่ โดยกรมวิชาการเกษตรต้องลงตรวจและสำรวจ ตนจะประสานว่าขอให้มีการลงมาตรวจการปนเปื้อนที่มาจากน้ำที่ปนเปื้อนตลอดสายน้ำ เพราะคงจะเหมือนกันทั้งหมด หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ รัฐบาลคงจะต้องรับผิดชอบ
“วันนี้เชียงรายเราได้รับความเสียหาย เพราะเราวางเป้าหมายให้เป็นเมืองสุขภาพ wellness แต่เรากลับเจอเรื่องปัญหาหมอกควัน PM2.5 ปัญหาน้ำท่วม และตอนนี้เจอปัญหาสารพิษ ปีนี้เราเสียหายเยอะมาก ทั้งภาคท่องเที่ยวและการเกษตร เราต้องร่วมกันรณรงค์และเชิญชวนให้เกิดการท่องเที่ยว เราก็ต้องหาวิธีการว่าทำอย่างไรที่เรื่องแบบนี้จะต้องได้รับการแก้ไข เพราะเราไม่รู้ว่าค่าเหล่านี้อนาคตจะเป็นอันตรายหรือไม่ ค่าเหล่านี้ต้องลดลงไป รัฐบาลต้องไปดูว่า (เหมืองแร่) ต้นน้ำเป็นอย่างไร”นายก อบจ.เชียงราย กล่าว
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุคำสัมภาษณ์นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ว่าได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาปนเปื้อน หากพบการปนเปื้อนสารหนูหรือโลหะหนักอื่นๆ ก็ต้องเร่งแก้ไขและสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการจัดหาแหล่งน้ำอุปโภคและบริโภคแห่งใหม่ ที่สะอาดและปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
นายสุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่17 ตุลาคม 2568 กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย เทศบาลตำบาลแม่ยาว ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ ได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน 2 แห่ง ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ได้แก่ ระบบประปาหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นระบบประปาภูเขา และระบบประปาบ้านห้วยทรายขาว หมู่ที่ 3 ซึ่งใช้น้ำจากบ่อบาดาลเป็นน้ำดิบในการผลิตประปา ผลการตรวจทั้ง 2 แห่ง โดยการใช้ชุดตรวจภาคสนามทำการตรวจวัดสารหนูเบื้องต้น ไม่พบการปนเปื้อนสารหนู และได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำส่งกลับมาวิเคราะห์ยังห้องปฏิบัติการกรมควบคุมมลพิษ เพื่อตรวจหาการปนเปื้อนโลหะหนักชนิดอื่นๆ ต่อไป
อธิบดี คพ.กล่าวว่า ได้วางแผนตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่ที่มีรายงานน้ำประปาปนเปื้อนโลหะหนัก 18 แห่ง ในพื้นที่ ต.แม่ยาว ต.ดอยฮาง ต.รอบเวียง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง ต.หนองป่าก่อ อ.ดอยหลวง ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน และ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า และขยายตรวจพื้นที่อื่นๆ เพื่อคลายวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน