วันที่ 18 ต.ค.68 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายภัชริ นิจสิริภัช ประธานคณะทำงานติดตามความเสียหายจากการถูกหลอกลวงออนไลน์ แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการร่วมกับทางการสหรัฐอเมริกา เพื่ออาญัติและยึดทรัพย์สิน พร้อมดำเนินคดีอาญา กับบุคคลและกลุ่มทุนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยซึ่ง ถูกระบุชื่อในร่างกฎหมายสหรัฐฯ “พระราชบัญญัติทลายกลุ่มสแกมหลอกลวงข้ามชาติ” (Dismantle Foreign Scam Syndicates Act) ซึ่งมีรายชื่อรวมทั้งสิ้น 43 รายชื่อที่ถูกจับตา คว่ำบาตร และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนในหลายประเทศ รวมถึงไทยและกัมพูชา
นายปริเยศ กล่าวว่า หน่วยงานของสหรัฐฯ เปิดเผยรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์และฟอกเงินข้ามชาติ โดยมีบางรายพำนักอยู่ในประเทศไทยนานนับสิบปี และยังมีทรัพย์สินจำนวนมหาศาลอยู่ในประเทศไทย แม้จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิดจากทางการสหรัฐฯ แต่กลับสามารถอาศัยอยู่ในไทยและเดินทางเข้าออกประเทศได้อย่างเสรี ก่อนจะย้ายฐานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ซึ่งสะท้อนถึงความบกพร่องในกระบวนการบังคับใช้กฎหมายของไทย
พรรคไทยสร้างไทยตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า หน่วยงานความมั่นคงไทยและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย “รู้เรื่องเหล่านี้ดีอยู่แล้ว” แต่เหตุใดบุคคลในรายชื่อที่สหรัฐนำมาเปิดเผย จึงสามารถอยู่อาศัยในไทยได้อย่างสบาย ทั้งที่ถูกหน่วยงานความมั่นคงระดับโลกของสหรัฐขึ้นบัญชีดำ พรรคไทยสร้างไทย ตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้มีอำนาจบางส่วนให้ความคุ้มครองหรือแทรกแซง” ทำให้คดีและการติดตามทรัพย์สินของบุคคลและเครือข่ายดังกล่าวไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
จากการตรวจสอบข้อมูลยังพบอีกว่า บุคคลบางรายในรายชื่อมีทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลในประเทศไทย ทั้งคอนโดใจกลางกรุงเทพฯ เช่น St Regis และ มหานคร ซึ่งใช้ชื่อบุคคลใกล้ชิดเป็นเจ้าของจึงขอเรียกร้องให้ทางการไทยไปตรวจสอบรายชื่อ รวมถึงรีสอร์ตหรูในจังหวัดภูเก็ต เรือยอชต์ส่วนตัวหลายลำ และรถซูเปอร์คาร์ราคาคันละเป็นร้อยล้านบาทหลายคัน ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าอาจได้มาจากการฟอกเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์และการค้ามนุษย์
นายภัชริ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ระบุว่า ในปี 2567 มีคนไทยตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการหลอกลวงออนไลน์มากกว่า 575,500 ราย สร้างความเสียหายรวมกว่า 65,715 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละกว่า 80 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังมีศูนย์ปฏิบัติการสแกมเมอร์มากถึง 53 แห่งใน 6 เมืองของกัมพูชา และอีกกว่า 40 แห่งที่ยังเข้าไม่ถึงการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีคนไทยมากกว่า 3,000 คน ถูกหลอกลวงและบังคับใช้แรงงานในพื้นที่เหล่านี้
นายภัชริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานของสหรัฐฯ อังกฤษ และประเทศพันธมิตรในเอเชีย เพื่อรื้อถอนและปิดล้อมขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งในด้านการฟอกเงิน การหลอกลวงออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งไทยควร “เข้าร่วมอย่างเต็มรูปแบบ” เพื่อแสดงความจริงใจในการปราบปรามขบวนการดังกล่าว และยุติข้อครหาว่ามีเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอิทธิพลบางกลุ่มให้การคุ้มครอง
นายภัชริกล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะจัดทำหนังสืออย่างเป็นทางการส่งถึงรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน และเร่งดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ที่ทางการสหรัฐกำลังจับตาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติเหล่านี้ พร้อมทั้งเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไทย-สหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของเครือข่ายเหล่านี้ต่อไป
“บุคคลเหล่านี้ถือเป็น อาชญากรระดับโลก (Global Criminal Syndicate) ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยมหาศาล รัฐบาลจึงควรดำเนินการอย่างเร่งด่วนทั้งในด้านกฎหมายและการยึดทรัพย์ เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ประชาชนและเหยื่อผู้บริสุทธิ์” นายภัชริ กล่าว