วันที่ 17ตุลาคม 2568 นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนาง อโนชา สุวรรณภาพ คลังจังหวัดบุรีรัมย์ นางสาวอรอนงค์ ณ ลำพูน ตำแหน่ง ผู้จัดการสำนักงานเขตบุรีรัมย์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานคลังจังหวัด และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่ร่วมอำนวยความสะดวกและบริการประชาชนกลุ่มผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะที่เดินทางไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ที่บริเวณลานจอดรถใต้อาคารธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีผู้ประกอบการร้านค้าให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองแนะนำการจัดเตรียมเอกสาร พร้อมแบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน พร้อมรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กับร้านค้า ก่อนทีจะให้บัตรคิวเพื่อไปเข้าคิวยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ธนาคารจุดบริการต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างพอใจในการให้บริการของเจ้าหน้าที่ที่อำนวยความสะดวกพร้อมให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส "ร้านค้าเดิม" ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงเข้าไปกดยืนยันเข้าร่วมโครงการในแอปฯ "ถุงเงิน" ส่วน "ร้านค้าใหม่" ไม่เป็นต้องไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิในโครงการที่ผ่านมา สามารถดาวน์โหลดใบสมัครที่เว็บ http://คนละครึ่งพลัส.com กรอกข้อมูลใบสมัคร โดยมีผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน ในพื้นที่ตั้งร้านค้ารับรอง และแนบหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายเจ้าของร้านผู้ลงทะเบียนคู่กับร้านค้า นำไปยื่น ณ จุดบริการภาครัฐธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขา เมื่อได้รับอนุมัติให้ร่วมโครงการแล้ว ในแอปฯถุงเงิน จะมีเมนู "คนละครึ่งพลัส"

นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณธนาคารกรุงไทย ที่ได้จัดบริการแบบ ONE Stop service ทำงานร่วมกันหลายฝ่าย โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านมารับรองร้านค้าในเขตพื้นที่รวมถึงการใช้เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านตรวจสอบไปยังร้านค้าที่อยู่ต่างอำเภอได้ด้วยเพื่อความรวดเร็ว ส่วนการรับลงทะเบียนนั้นมีไปจนถึง 19 ธันวาคม 2568 และขอเตือนประชาชนในเรื่องการใช้บริการแอปฯ ถุงเงิน หรือเป๋าตังค์ นั้น ให้ดาวโหลดจาก แอปสโตร์" (App Store) สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ iPadOS หรือ Google Play Store สำหรับระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น หากติดตั้งจาก ลิ้งค์ภายนอกที่ส่งต่อๆ กันทางช่องทางอื่น มีความเสี่ยงถูกหลอกจากมิจฉาชีพ ส่วนร้านค้าที่ได้รับอนุมัติแล้วอย่างทำผิดเงื่อนไขเด็ดขาดเพราะระบบสามารถตรวจสอบได้ว่าได้ค้าขายจริง หรือรับแลกเงิน ซึ่งที่ผ่านมามีร้านค้าถูกดำเนินคดีมาและถูกขึ้นบัญชีดำมาแล้ว และร้านค้าอย่าฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคโดยการขึ้นราคาสินค้าเด็ดขาด

สำหรับ ผู้ที่สามารถใช้สิทธ์คนละครึ่ง พลัส จะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน และต้องไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ประกอบการ ร้านค้า สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึง 19 ธันวาคม 2568 ประชาชนทั่วไปสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2568 (เวลา 06.00–22.00 น.) ผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”และสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม–31 ธันวาคม 2568 นี้
ขณะที่รูปแบบการใช้สิทธิ์ กลุ่มผู้ยื่นภาษีจะได้สิทธิ์สูงสุด 2,400 บาทต่อคน ส่วนกลุ่มทั่วไปจะได้สิทธิ์สูงสุด 2,000 บาท ต่อคน ซึ่งจำกัดการใช้ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน โดยรัฐบาลจะร่วมจ่าย 50% ของค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านการใช้จ่ายผ่านแอปฯเป๋าตัง และร้านค้าจะรับเงินผ่านแอปฯ ถุงเงิน
#ภูมิภาค-54