วันที่ 17 ต.ค.68 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ระบุว่า...
ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อปกป้องความสุจริตของธุรกิจไทย ปิดประตูทุนเทา ร่วมมือกับโลกล่าแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา
ตามที่มีข่าวปรากฏว่า บนเว็บไซต์
https://princeth.com
ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) ผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Holding Group ซึ่งเป็นบุคคลที่ สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตร อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์ ที่มีการกักกันบังคับใช้แรงงานเหยื่อค้ามนุษย์เพื่อการหลอกลวงออนไลน์
เว็บไซต์ดังกล่าวอ้างว่า นายเฉิน จื้อ มีการลงทุนใน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ผ่านบริษัท Prince Real Estate International Thailand ที่ตั้งอยู่ในอาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ย่านอโศก
(ปัจจุบันข้อมูลดังกล่าวได้ถูกลบออกจากเว็บไซต์แล้ว)
อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างๆ ทั้ง Prince Real Estate Thailand และ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกแห่งที่ถูกกล่าวอ้าง เช่น Richy, SC Asset และ Sansiri ต่างได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ต่างยืนยันว่า ไม่มีธุรกรรม หรือการร่วมลงทุนใดๆ กับเครือข่ายของนายเฉิน จื้อ
ดังนั้น สังคมจำเป็นต้อง ให้ความเป็นธรรมกับบริษัททั้งหมดที่ถูกพาดพิง เนื่องจากเป็นไปได้ว่า บริษัทเหล่านั้นอาจ ถูกนายเฉิน จื้อ แอบอ้าง จนตกเป็นผู้เสียหาย
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ข้อกล่าวหานี้ ถูกตรวจสอบอย่างโปร่งใส และสร้างความชัดเจนต่อสาธารณะ รัฐบาลควร มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปตรวจสอบ เส้นทางการเงิน รวมทั้งให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าไปตรวจสอบ ธุรกรรมการลงทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ เพื่อ ปกป้องไม่ให้บริษัทที่ถูกกล่าวอ้างได้รับความเสียหาย จากข้อครหาที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ และทุนเทาข้ามชาติ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าข้อกล่าวหานี้ มีแนวโน้มว่าจะไม่เป็นความจริง แต่ยังมีข้อสังเกตสำคัญว่า มีความเป็นไปได้ที่ทุนเทาข้ามชาติ อาจสามารถนำเอา เงินสกปรกจากอาชญากรรมไซเบอร์ และการหลอกลวงออนไลน์ มาฟอกผ่านการลงทุน ผ่าน กลไกตลาดหลักทรัพย์ ระบบการเงิน และระบบการลงทุน
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง วางมาตรการป้องกัน มิให้ทุนเทาข้ามชาติ เคลื่อนย้ายเงินสกปรกเข้ามาฟอก หรือเข้ามายึดครองประเทศ ผ่านการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือการลงทุนใดๆ ในประเทศไทย
รวมทั้งต้อง ผสานความร่วมมือกับนานาอารยประเทศ ผ่าน กลไกทวิภาคี และพหุภาคี พร้อมทั้ง ร่วมลงสัตยาบันในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ หรือ UN Convention against Cyber Crime 2024
#วิโรจน์ #ทุนเทา #ฟอกเงิน #ธุรกิจไทย #แก๊งสแกมเมอร์ #กัมพูชา #สยามรัฐ








